หัวข้อ: Half Year Meeting / Hard Core DIY Tube Amplifier Review

[Dekwat]

สำหรับผมติดใจ C ที่ได้แชมป์บอลโลกละครับ เสียงหวานและรายละเอียดดีมากๆจริงๆ   0) รายละเอียดต้องให้น้องที่เป็นเจ้าของมาบรรยายครับ 
เอ๋ หรือว่าเสียงดีอยู่ที่คนต่อให้ฟังเอ่ย ถึงได้น่าฟังดีอย่างนี้   

[Dekwat]

พูดถึงแผ่นเสียงที่พี่วัฒน์แกเอามาเลหลัง แผ่นที่ผมซื้อเป็นแผ่นที่ผมหาอยู่พอดี ต้องบอกว่าถูกใจมากครับ ทั้งเพลงและการบันทึกเสียง แผ่น TBM บันทึกเสียงดีมากครับ ที่จริงอยากได้แผ่น BEE GEE รวมฮิตอีกแผ่นนึงนะครับ ไม่รู้ยังอยู่หรือเปล่า จะเอาใจแม่บ้านเสียหน่อย

แผ่น Bee Gee ยังอยู่ครับ ถ้ายังสนใจอยู่ก็ PM มานะครับ มีalbumอื่นอีกเหมือนกันจะลองหาดูให้ครับ 

[สุรศักดิ์]

output หม้อแปลงมี Impedeance 3.5 K ซึ่ง output ตัวนี้ พันเองด้วยสูตรผมเอง ซึ่งวงจร output นี้ต่อลำโพงโดยตรงที่ 8 โอม 

ขอรายละเอียดการพันครับ ใช้แกนเหล็กขนาดเท่าไหร่ พันกี่รอบ ลวดเบอร์ไหนครับ 

[paganini]

ผมคิดว่า 810 น่าจะขับ Focus ได้ดีกว่า Mozart แน่นอนครับพี่พินิจ หรือลำโพงอย่าง โปรแอค, Totem

อยากถามเพิ่มเติมว่าทำไมหลอด Tesla เกือบทุกเบอร์ใน Ebay มันถึงราคาสูงจังเลยครับ ทั้งที่เป็นหลอดยุโรปตะวันออก

[PINIJ]

ตัว 810 ต้องการประมาณ 140Vpp สำหรับ full power (60Wrms output) เท่านั้นครับ แต่ grid ต้องการ power ประมาณ 2-3W ตรงนี้ที่ยากหน่อย เพราะปกติถ้าเราออกแบบ driver ให้ทำงานได้ถึง 3W อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ควรจะให้มันมี full output สองเท่าขึ้นไปคือประมาณ 5-6W ครับ

300B น่าเป็นตัวเลือกนะครับ

ผมคิดว่าถ้าจะให้แมชชิ่งลำโพงโมสาร์ทที่มีความไว 89db น่าจะลดพลังของมันลงไปอีกหน่อย น่าจะกลมกลืนกว่านี้ ขณะเดียวกันเสียงเบสที่เหลือเฟือมันค่อนข้างจะกลบเสียงกลางกับเสียงแหลมไปพอสมควร ยิ่งตอนใช้ Phono Pearl ที่คัปปิ้ง ด้วย C ค่า 2.2uF ผมคิดว่าเสียงกลางแหลมนั้นโดนพลังเบสกลบจนหมด จนกระทั่งเปลี่ยน Phono ที่ใช้ค่า 10uF เข้าไป รายละเอียดของเสียงกลางแหลมจึงแสดงตัวออกมามากขึ้น

การใช้แอมป์กำลังเกินเสียงจะออกมาอับๆทึบๆ ครับ แต่ถ้าพบว่าวันนั้นมีแต่เบสมากกว่าส่วนอื่นๆ นี่ผมคิดว่าต้องลองใช้ CD เป็น Source ที่มีเสียง Flat  ถูกต้องมากกว่า Pre-phono ที่ยังไม่ได้วัดค่า RIAA ครับ  ต้องลองดูกันอีกครั้งละครับ เสียดายผมไม่ได้ไป ไม่งั้นคงได้ฟังแผ่น Manger เพลงที่ 15 ทดสอบมันดูกับลำโพงที่มีมาตรฐานอย่าง Mozart

810 กับลำโพงซั๊ก..  86 dB น่าจะเหมาะกันมากกว่าครับ หลอดเบอร์นี้เป็นหลอดที่ให้กำลังสูงๆ ได้  และผมสนใจมันที่สุดด้วย เมื่อดู Plate Curve แล้วมันคล้ายกับ 211 ซึ่งดูมัน Linear กว่า  805 หรืออีกหลายๆ เบอร์ ที่ให้กำลังได้ใกล้ๆ มัน 50-70W มีหลอดเป็นของ EU และUS ผมไม่ค่อยชอบหลอดของ Russia มากนักแม้ว่ามันจะมีความดีทางด้าน Electrical ที่เหนือกว่าเช่น Supper Tube หรือ GM70 แต่เรื่องของเสียงมันคนละเรื่องกัน ความ Romantic ของเสียง ผมคิดว่าหลอด EU และ US มันเหนือกว่าครับ (ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ)

ส่วน 810 ผมมีความเห็นเช่นเดียวกับพี่พินิจครับว่าอยากได้ยินมันไดรฟ์กับหลอดด้วยเช่นกัน

หากคุณ Karin ใช้หลอดเป็น Driver เสร็จเมื่อไรผมยินดีเอา  Focus ยกไปลองที่บ้านคุณ Karin ก็ได้นะครับ

[xthaix]

ขอบคุณคำตอบเรื่อง C ครับ เห็นราคาแล้ว ผมคงลองๆ ติดต่อคุณก้า แกดูก่อนดีกว่า เห็นแกมาแย๊บๆ เหมือนกัน อาจเอา 845 แลกมาสัก 2-3 คู่ครับ...

เมื่อวานนี้ได้หลอด 803 ส่งมาจากอเมริกาแล้วครับ ใส่ในกล่องขนาดราวๆ 2X2X1 ฟุต.. 2 หลอดเต็มกล่องเลยครับ ค่าส่งเกือบ 30$ ดีที่ไม่โดนภาษี และส่งถึงบ้านเลย...อิ อิ .... สงสัยหลอดนี้ดองนานสุดๆ 5 ปีอัพ ครับ...

[Karin Preeda]

ตัว 810 ต้องการประมาณ 140Vpp สำหรับ full power (60Wrms output) เท่านั้นครับ แต่ grid ต้องการ power ประมาณ 2-3W ตรงนี้ที่ยากหน่อย เพราะปกติถ้าเราออกแบบ driver ให้ทำงานได้ถึง 3W อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ควรจะให้มันมี full output สองเท่าขึ้นไปคือประมาณ 5-6W ครับ

[DIY Man.]

ถ้าใช้หลอดขับเจ้า 810 กลัวว่านอกจะถอดเสื้อแล้ว อาจจะต้องถอดกางเกงฟังด้วยครับ 

           น่านนะซิ....ผมเองก็อยากจะเห็นว่าหลอดอะไรดีจะ Swing สัญญานได้ขนาด 200 กว่าๆ Vp-p แถมต้องแกร่งในการขับ Grid ขนาดยักษ์ของเจ้า 810 ให้ได้ Full Watts อีก เราคงอาจจะได้เห็น 810 Drive 810 กันล่ะครับงานนี้ 

[Karin Preeda]

ถ้าใช้หลอดขับเจ้า 810 กลัวว่านอกจะถอดเสื้อแล้ว อาจจะต้องถอดกางเกงฟังด้วยครับ 

[paganini]

ผมคิดว่าถ้าจะ SOD กันให้ถึงที่สุด จะต้องจำกัดจำนวนแอมป์ให้เหลือน้อยลง และกลุ่มต้องเล็กลงกว่านี้ครับ ผมยังคิดอยู่ว่าอาจจะ SOD pearl ในเร็ววันนี้ ถ้าหลายๆท่านทำเสร็จนะครับ (รวมถึงผมด้วย ยังต้วมเตี้ยมอยู่เลย)

ส่วน 810 ผมมีความเห็นเช่นเดียวกับพี่พินิจครับว่าอยากได้ยินมันไดรฟ์กับหลอดด้วยเช่นกัน

[รักหลอด]

ในความเห็นของผมเมื่อฟังเสียงทุกเครื่องโดยรวม ผมว่าลายละเอียดหายไปมากอาจจะเป็นเพราะเปิดในที่โล่งทำให้บางเสียงกระจายหายไปในอากาศ ในการจูนเสียงควรใช้ห้องที่มี accustic ที่ดีเพื่อให้ได้ยินเสียงอย่างครบถ้วน ถ้าจะจัด SOD  กันควรเลือกห้องที่จะจัดด้วย อุปกรณ์หลักเช่น out put  c   หลอด ควรค่าต่อการลงทุนเพราะผลที่ได้จะคุมกับเวลาที่เรา RELAX  ด้วยเสียงเพลงเพราะเป็นการบำบัดด้วยเสียงเพลงทำให้ไม่ต้องไปเสียค่ายา  เมื่อจิตสงบดีแล้วสารความสุขก้จะหลังออกมาไม่ต้องไปออกกำลังกายให้เหนือย ทำให้นอนหลับอยางเป็นสุขอย่าไปเสียดายกับอุปกรณ์เครื่องเสียงที่มีคุณภาพแต่ราคาแพงเลยครับ เพราะมันคุ้มค่าต่อการลงทุน    ป.ล. สำหรับ   C  JENZEN  ลองติดต่อคุณ KVA ได้ข่าวว่าสั่งเข้ามาแยะ

[DIY Man.]

สำหรับ DAC ของ DIY Man ที่โดนความร้อนเล่นงานจนเดี้ยง ผมได้ฟังอยู่พอสมควร เสียงที่ได้ยินเป็นไปตามสไตล์ของเจ้าของคือหนานุ่มชุ่มชื่นหัวใจ หลายคนที่เล่นซีดีเป็นหลัก ผมคิดว่าถ้ามี DAC ดี ๆ ก็ไม่ต้องเปลี่ยนมาเล่นแผ่นเสียงให้เสียตังค์เพิ่มข้นก็ได้นะครับ (เว้นแต่ว่าอยากลองเสียตังค์สักก้อน) เพราะเสียง DAC นั้นทำให้เครื่องเล่น DVD ถูก ๆ ฟังเพลงได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีความหนานุ่ม ไม่คลิป หรือเสียงกลางแข็งทื่อเหมือนเครื่องเล่นราคาถูก

             อื่ม....มันแปลกจริงๆนะ วันอาทิตย์ผมได้ลองเอากลับไปต่อลองที่บ้านมันก็กลับปกติส่งเสียงดีครับ สงสัยเกิดจาก วันนั้น Ambient Temp ค้อนข้างร้อนไปหน่อยตัว IC/ Regulator มันคงร้อนจัดจน Off ไป เลยเดี้ยงครับ ผมลุ้นให้มันพัง ซึ่งไม่กลัว เพราะผมยังเหลือ V1 ที่ทำไว้อีก 2 ชุด และ V2 ฝาแฝดมันอีก 1 ชุด....5555 ลืมขนเอาไปไว้สำรอง ต้องขอโทษด้วยครับ
       
              ขอบคุณ คุณ KUL/ Topamp แทนเพื่อนๆ ที่มาให้รายละเอียดโครงสร้างภายใน EL34 SE ที่เอามา Test ในงานกับพวกเราครับ

              ส่วนอันนี้ของฝากสำหรับคุณไทครับ แนะนำว่าถ้ารวมตัวกันซื้อแบบคุณ Alexdiy ว่ามาได้จะช่วย Share ค่าส่งลด Cost/Ea.ได้เยอะครับ และอาจจะสามารถต่อรองให้ Seller เค้า Matching แต่ละคู่ได้ด้วย สุดจากตัวนี้ก็อาจจะต้องลอง Silver Foil in Oil ล่ะครับ แต่เห็นราคาแล้ว  :cry2สำหรับผมคงขยับไปเล่น IST เลยดีกว่า
              เตือนให้พวกเราได้ระมัดระวัง Jensen แบบปลอมๆ กันไว้ด้วยก็จะดีนะครับ แว่วๆว่ามันค่อยๆ มีมาแล้ว หน้าตานั้นเหมือน...เป๊ะ....แต่เสียงที่ได้ออกมาไม่เหมือนของต้นฉบับ...ของแพงก็อย่างนี้แหละครับ ดูอย่างพวก Blackgate/Cerafine ยังมีปลอมๆ กันออกมาเลย ทำกันได้:nono
           
                                                             

[PINIJ]

นึกว่าจะไม่มีคนคุยเรื่องลักษณะของเสียง ของแต่ละเครื่องซะแล้วในวันงาน ผมเสียดายไม่ได้ไปฟัง 810 ของคุณ Karin 0) เพราะไม่ได้บอกว่าจะเอาไปเปิดตัวในงานนี้ครับ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ฟังอีกเมื่อไรครับ แต่ใจผมอยากฟังตอนที่ใช้หลอดเป็น Driver มากกว่า SS ขับครับ เห็นมีคนให้เอาแผ่น Manger ไปด้วย ไม่ทราบว่าได้ลองแผ่นนี้กันด้วยหรือเปล่าครับ? แล้วผลของปลายแหลมสุดและเบสล่างสุดของเพลงที่ 15 เป็นอย่างไร? หากใครได้ฟังกรุณาเขียนให้ฟังบ้างครับ

[PORN]

               EL34 SE ตัวนี้เสียงก็น่าสนครับ จำได้ว่าเสียงมันแว่วผ่านออกไปสะดุดหูตั้งแต่ผมเพิ่งเดินทางมาถึงหน้าประตูรั้วหน้าบ้านตอนที่ผมได้มาถึงพร้อมๆกันท่านผู้พันเลย (แต่ต้องขออภัยผมจำไม่ได้จริงๆว่าพี่เจ้าของมีนามว่าอะไร??) ยังไงเข้ามาให้รายละเอียดวงจรและการสร้างต่อด้วยนะครับพี่ เห็นบอกว่า OPT พันเองกับมือเลยแหละครับ น่าสนใจในรายละเอียดภายในยิ่งนัก
               เรียบง่ายแต่ดุดันครับเจ้า EL34 ตัวนี้ เด่นที่พละกำลังและรายละเอียดดีเลยแหละครับ จำได้ว่าอัดกับ Album # Brasso Track 2 กลองจีนตอนกระหน่ำนี่หนังตึงเปรี๊ยะครับ...ขอบอก แม้เสียงร้องจะยังไม่ค่อยหวานระรื่นเนียนหูนัก (Style EL34 อาการอย่างนี้ต้องเจอ Philips หรือ Mullard ครับ) แบบหลอด DHT หรือ Power Triode แต่ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกนึงเพราะหลอดเบอร์นี้เรายังหาภายในประเทศได้ไม่ยากนักครับ

สำหรับรายละเอียดของ EL 34 SEมีดังนี้ เริ่มจากแหล่งกำลังจากหม้อแปลง Power TOROID จากแสงทองขนาด 100 VA ผ่านวงจร ไดโอด Half Wave rectifier Double voltage โดยมี C ขนาด 2200 UF 2 ตัว ได้ไฟ 300 V ผ่านโช้ค ขนาด3 H 250 MA (โช้คพันเอง) เพื่อกรองกระแสให้เรียบปราศจาก Noise และมี C ขนาด 330 UF กรองอีกชั้นหนึ่ง ก็ได้ไฟตรงที่ 300 V ที่นิ่งและเรียบ กำลังเหลือเฟือ หลอด input ใช้ 6922 (6DJ8) ของ Jan Phillip เพื่อเป็น pre และ ขับหลอด EL34 โดยมี C coupling ส่วนหลอด EL34 (ใช้หลอด MATSUSHITA) นั้นจัดวงจรแบบ Fixed Bias จัดกระแส Bias Ip ที่ 80 MA เป็นแบบ เพ็นโทด (300 V X 80 MA= 24 watt) output หม้อแปลงมี Impedeance 3.5 K ซึ่ง output ตัวนี้ พันเองด้วยสูตรผมเอง ซึ่งวงจร output นี้ต่อลำโพงโดยตรงที่ 8 โอม ซึ่งจุดเด่นของวงจรนี้คือ เป็น Zero negative feedback และวงจรนี้ก็ออกแบบด้วยสูตรผมเองอีกหล่ะครับ ครั้งนี้ผมก็เปิดไส้ให้ดูภายใน หมดไส้หมดพุง จะเห็นว่าเป็นวงจรธรรมดาๆเหลือเกิน ทั้งเครื่องมี3 หลอดเท่านั้นเอง คือ EL 34 2 หลอด และ 6922 อีก 1 หลอดเท่านั้น
 SPEC กำลัง 8 Watt  ต่อข้าง, Frequency response 30 Hz ถึง 40 KHz , Distortion 5% ที่ 8 watt (วัดที่ 1 KHz) โดยส่วนมาก เป็น Harmonic ที่ 2 , Harmonic ที่ 3 มีน้อย ส่วน Harmonic อื่นๆแทบไม่มีเลย

[Amadeus]

กระทู้นี้เยี่ยมมากเลยครับ พี่ DIY Man

เป็นวิทยาทานที่ยอดมากๆครับ

[alexdiy]

   
    ลืมบอกคุณไทไป copper foil ของ Jensen มีหลาย version ด้วยนาครับ มีแบบแพง ( หุ้มด้วยโลหะ ) อันนี้คือที่ผมอ้างถึงราคาพันกว่า , แบบแพงมาก ( เปลือกหุ้มด้วยน่าจะเป็นกระดาษ ตามรูปใน web   ultimatist ) กับแบบ ( หุ้มด้วยเซลามิคคล้ายกระเบื้องสีขาว ) น่าจะข้างละสอง สามพัน ไปนั่นเลยครับ แต่ทั้ง 3 แบบ เป็น copper foil และ ขาเป็น เงิน ทั้ง 3 แบบ ผมมีแต่แบบแรกครับ สองแบบหลังยังไม่มีและไม่ได้ฟังเลยครับ ราคามันดุไปหน่อย ใครเคยฟังเทียบแล้วมาเล่าให้ฟังก็ดีนะครับ

[Charoen.P]

Jensen/Copper Foil in Oil ค่าตัวสักเท่าไหร่ครับ จะตามหาได้ที่ไหนครับ....
ตอนนี้ผมมี C oil Spague VitaminQ .15uf  100vdc จะไหวไหมครับ... เดิมใช้ .22 250vac 

ดูที่นี่ครับ อยู่แถวห้วยขวางครับ
http://www.ultimatist.com/   

[paganini]

สำหรับ DAC ของ DIY Man ที่โดนความร้อนเล่นงานจนเดี้ยง ผมได้ฟังอยู่พอสมควร เสียงที่ได้ยินเป็นไปตามสไตล์ของเจ้าของคือหนานุ่มชุ่มชื่นหัวใจ หลายคนที่เล่นซีดีเป็นหลัก ผมคิดว่าถ้ามี DAC ดี ๆ ก็ไม่ต้องเปลี่ยนมาเล่นแผ่นเสียงให้เสียตังค์เพิ่มข้นก็ได้นะครับ (เว้นแต่ว่าอยากลองเสียตังค์สักก้อน) เพราะเสียง DAC นั้นทำให้เครื่องเล่น DVD ถูก ๆ ฟังเพลงได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีความหนานุ่ม ไม่คลิป หรือเสียงกลางแข็งทื่อเหมือนเครื่องเล่นราคาถูก

แต่เสียงซีดีกับแผ่นเสียงก็ต่างกันอยู่ดีตรงที่แผ่นซีดีขาดบรรยากาศอันอบอวลในแบบ Vintage ขณะเดียวกันแผ่นเสียงโดดเด่นที่เสียงกลาง ส่วนเสียงทุ้มนั้นในบางอัลบัมก็ทำได้ดี บางอัลบัมก็แย่ ผมคิดว่าเพลงที่ไปได้ดีกับแผ่นเสียง น่าจะเป็นเพลงในช่วงยุค 50-70 ตอนต้น ๆ ช่วงที่แผ่นเสียงรุ่งเรืองถึงขีดสุด และเทคโนโลยีการผลิตแผ่นเสียงทำอย่างปราณีตบรรจงด้วยเครื่องมือที่ยังเป็นอนาล็อคทั้งระบบ รวมถึงวัศดุที่ใช้ผลิต Vinyl ยังมีคุณภาพที่ดีมาก สังเกตว่าอัลบัมที่ผลิตในยุค 50 ยังใช้งานได้ดีจนถึงทุกวันนี้ ทั้งที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน

[alexdiy]

   คุณไท อาจต้องไปซื้อเอาที่ร้าน first บ้านหม้อครับ เข้าใจว่า 0.22uF 630V copper foil น่าจะพันกว่า ไม่รู้พันเท่าไรแต่ไม่น่าถึงพันห้า เคยถามนานแล้วครับ แต่ถ้าสั่งจากนอก รวมๆกัน สั่ง ช่วยกันออกค่าส่ง ก็จะถูกกว่าครับ ผมเคยซื้อมาพร้อมๆกัน 0.47uF 630V 4 คู่ รวมค่าส่งหารๆกันแล้วเหลือคู่ละ 1,800 บาท ครับ พอดีไม่โดนเก็บภาษีด้วย เลยถูกหน่อย

[สิงห์]

ผมเปลี่ยนจากวงจรเดิมที่ขับด้วย 12SL7 ฟังดูมันเลี่ยน ๆ ไปหน่อย และกำลังขับน้อยด้วย  พอมาลองวงจรนี้เข้า  ถูกใจเลยครับ กำลังขับเหลือเฟือครับ

งานนี้เลยทำให้พวกเราได้ลอง Tweak อะไรๆ กันสนุกครับ เป็นภาคที่กระเป๋าโดเรมอนของพี่รักหลอดเปิดเข้าออกอย่างสนุกสนาน เจอ 12AU7 Mullard /Clear Top เปลี่ยน OPT เปลี่ยน Coupling Cap   และอีกหลากหลาย ได้ประสบการณ์ทางเสียงที่แปรเปลี่ยนไปกันอย่างสนุกสนานครับ

นั่นซิครับ  ทำให้ผมใจแตก  เมื่อได้ลอง Mullard ของพี่รักหลอดเข้าไป แถมด้วย C ของ Jensen  โอ๊ย...จะบ้าตาย    แอบเข้าไปเล็ง ๆ ใน อีบ้า เอ้ย... อีเบย์  หลายรอบแล้ว   รอโอกาสอยู่ครับ................หรือใครจะปล่อยให้ผมถูก ๆ บ้างครับ 

[สิงห์]

ชอบชื่อนี้จังครับ  Hard Core DIY แปลเป็นไทยว่า  ดี ไอ วาย คอแข็ง   

ตัวนี้เด็ดที่วงจร Drive ครับ สุดจะสลับซับซ้อน เป็น 2A3 SE ตัวแรกที่ขับด้วย 12AU7 ที่ผมเคยฟัง รบกวนพี่สิงห์มาให้รายละเอียดด้วยนะครับ ผมสนใจ Driver Stage  Concept มากกกก

ความจริงวงจรไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรมากครับ  ผมก็ทำตามวงจรนี้แหละครับ     แต่ภาคจ่ายไฟใช้อันเดิมซึ่งใช้หลอดครับ  และหลอดขับทั้ง 3 หลอดจุดไส้หลอด DC

[BAY]

พูดถึงแผ่นเสียงที่พี่วัฒน์แกเอามาเลหลัง แผ่นที่ผมซื้อเป็นแผ่นที่ผมหาอยู่พอดี ต้องบอกว่าถูกใจมากครับ ทั้งเพลงและการบันทึกเสียง แผ่น TBM บันทึกเสียงดีมากครับ ที่จริงอยากได้แผ่น BEE GEE รวมฮิตอีกแผ่นนึงนะครับ ไม่รู้ยังอยู่หรือเปล่า จะเอาใจแม่บ้านเสียหน่อย

อย่างนี้ต้องรีบหา BEE GEE มาด่วนเลยครับ 

[paganini]

พูดถึงแผ่นเสียงที่พี่วัฒน์แกเอามาเลหลัง แผ่นที่ผมซื้อเป็นแผ่นที่ผมหาอยู่พอดี ต้องบอกว่าถูกใจมากครับ ทั้งเพลงและการบันทึกเสียง แผ่น TBM บันทึกเสียงดีมากครับ ที่จริงอยากได้แผ่น BEE GEE รวมฮิตอีกแผ่นนึงนะครับ ไม่รู้ยังอยู่หรือเปล่า จะเอาใจแม่บ้านเสียหน่อย

[BAY]

ร้าน  SAC มีแน่ครับคุณไท ลองเช็คราคาก่อนก็ดีนะครับ

แผ่นเสียง  TBM เป็นอย่างไรบ้างครับ เสียงดีเปล่า

[paganini]

Jensen/Copper Foil in Oil ค่าตัวสักเท่าไหร่ครับ จะตามหาได้ที่ไหนครับ....
ตอนนี้ผมมี C oil Spague VitaminQ .15uf  100vdc จะไหวไหมครับ... เดิมใช้ .22 250vac 

0.22 630v Copper Foil ราคาประมาณ $17 ครับ (ต่อตัว) ผมกำลังจะสั่ง .33 มาคู่นึงเหมือนกัน

[xthaix]

Jensen/Copper Foil in Oil ค่าตัวสักเท่าไหร่ครับ จะตามหาได้ที่ไหนครับ....
ตอนนี้ผมมี C oil Spague VitaminQ .15uf  100vdc จะไหวไหมครับ... เดิมใช้ .22 250vac 

[DIY Man.]

ขอบคุณ คุณ DIYman ครับ ผมจะได้เอาไปปรับปรุงเสียงอีก....
ผมก็ชอบเสียงของ 1626 โต๊ะหมู่ ตัวนี้ครับ... ประจำการแทนที่ Gainclone ไปเรียบร้อยแล้วครับ 

                  ดูจากลักษณะการฟังเพลงหรือที่คุณไทได้ Tune เสียงออกมาแล้ว ผมว่าลองเปลี่ยนไปเป็น Jensen Copper Foil in Oil แทน Coupling Cap ตัวเดิมผมว่ามันน่าจะไปได้ดีกับ 1626 SE ชุดนี้นะครับ มันอาจจะดูว่าราคาค่าตัวแพงกว่าหลอด O/P อยู่พอสมควร แต่ผลที่ได้ผมว่าคุ้มครับ นุ่มนวลชวนฟัง Very Detail แถมเราไม่ต้องไปเสียเวลาลองกับ Coupling Cap. PIO ยี่ห้ออื่นๆ ให้มัวเสียเวลา  และถ้าคุณฟัง Vocal และเน้น Relax ฟังสบายๆ ไม่ได้ยึด Speed และ Dynamic มากจนเสียเป็นหลักใหญ่ พวก Plastic Film หรือ Film & Foil Type ผมว่ามันลืมไปได้เลยครับ
                  อย่าง PIO อเมริกัน Spague/VitaminQ/Aerovox....etc ก็ยังพอถูไถไปได้บ้างครับแต่เทียบกันจริงๆ ก็นุ่มนวลดี แต่ผมว่า Detail และจังหวะจะโคน มันยังห่างไกลกับ Jensen/Copper Foil in Oil ครับ

[xthaix]

ขอบคุณ คุณ DIYman ครับ ผมจะได้เอาไปปรับปรุงเสียงอีก....
ผมก็ชอบเสียงของ 1626 โต๊ะหมู่ ตัวนี้ครับ... ประจำการแทนที่ Gainclone ไปเรียบร้อยแล้วครับ 

[รักหลอด]

คุณ DIY MAN  REVIEW เห็นภาพได้ชัดเจนดีมากครับเขียนลงในหนังสือ commercial ได้สบายเหมือนนักวิจารณ์อาชีพ แต่ละเครื่องยังสามารถจูนได้อีกครับถ้ามีเวลาเรามาช่วยกันก็จะได้เสียงที่ถูกใจมากยิ่งขึ้น

[LOUIS]

el34se เป็นของคุณกุนครับ

ส่วน 810E พละกำลังเหลือเฟือสำหรับลำโพงที่กินวัตต์ และน่าจะขับลำโพงทุกตัวที่ขับยาก ๆ ได้สบาย  แม้แต่โมสาร์ทของผมยังโดนพละกำลังของมันอัดน่วมเลยครับ

ผมคิดว่าถ้าจะให้แมชชิ่งลำโพงโมสาร์ทที่มีความไว 89db น่าจะลดพลังของมันลงไปอีกหน่อย น่าจะกลมกลืนกว่านี้ ขณะเดียวกันเสียงเบสที่เหลือเฟือมันค่อนข้างจะกลบเสียงกลางกับเสียงแหลมไปพอสมควร ยิ่งตอนใช้ Phono Pearl ที่คัปปิ้ง ด้วย C ค่า 2.2uF ผมคิดว่าเสียงกลางแหลมนั้นโดนพลังเบสกลบจนหมด จนกระทั่งเปลี่ยน Phono ที่ใช้ค่า 10uF เข้าไป รายละเอียดของเสียงกลางแหลมจึงแสดงตัวออกมามากขึ้น

แนวเพลงร็อคเหมาะกับ 810 มาก โดยเฉพาะอัลบัม Pink Floyd The Wall แต่ถ้าฟังแจ๊ส ผมคิดว่าเสียงดับเบิ้ลเบสมันใหญ่ไปนิดหนึ่ง ดังนั้นมันเหมาะกับฟังเพลงป๊อป ร๊อค เมทัล ได้อย่างมันส์แนนอนครับ หรือท่านใดที่ชอบพละกำลังแอมป์มาก ๆ ห้องที่ใช้ใหญ่ ๆ 810 เป็นคำตอบทีท้าทายมาก


ส่วนตอนที่ขับลำโพง 80 บาท นั้น เสียงที่ได้กลับนิ่งกว่า โดยเฉพาะเสียงกลาง จนหลายคนอดทึ่งไม่ได้ ผมเดาว่าอาจจะเป็นเพราะมันตั้งอยู่ในที่โล่งแจ้งกว่าในห้องมาก ทำให้คลื่นเสียงความถี่ต่าง ๆ ไม่วกไปวนมากลบกันเหมือนอยู่ภายในห้อง

อ่านรีวิวแล้วเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเลยครับ 

[paganini]

อีกตัวที่ผมได้ฟังแบบเต็ม ๆ คือ Gain Clone ของน้อง Sotus เล่นกับ 126E ของผม ได้เสียงที่นวลเนียนได้ถูกใจผมเป็นอย่างยิ่ง ถามว่าถูกใจผมแค่ไหน ถ้าอารมณ์อยากฟังเพลงสบาย ๆ ให้บรรยากาศไม่ซีเรียส ผมคิดว่า Gain Clone ให้เสียงที่มีความอุ่น แต่ข้อด้อยคือพลังแฝง คือเสียงมันออกไปแนว เรื่อย ๆ ถ้าเป็นมวยคือแยบเก่ง ฟุตเวิร์คทำงานเยี่ยม ทว่ายังขาดทีเด็ดทีขาดในย่านเสียงบางย่าน แต่ถ้าเทียบกับหลอดแล้ว บรรยากาศของหลอด ให้เสียงที่มี "อารมณ์บรรยากาศ" มากกว่า ซึ่งตรงนี้แหละครับที่วัดกันยากว่าเสียงแบบไหนกันแน่ที่จะถูกใจคอเพลง ก็คงขึ้นอยู่กับรสนิยมเป็นหลัก

[PokkyMan]

ของผมเอาไปฟัง รู้สึกว่าเสียงมันคมไป ท่าทางจะต้องเก็บไว้ฟังที่บ้านอย่างเดียว

[paganini]

el34se เป็นของคุณกุนครับ

ส่วน 810E พละกำลังเหลือเฟือสำหรับลำโพงที่กินวัตต์ และน่าจะขับลำโพงทุกตัวที่ขับยาก ๆ ได้สบาย  แม้แต่โมสาร์ทของผมยังโดนพละกำลังของมันอัดน่วมเลยครับ

ผมคิดว่าถ้าจะให้แมชชิ่งลำโพงโมสาร์ทที่มีความไว 89db น่าจะลดพลังของมันลงไปอีกหน่อย น่าจะกลมกลืนกว่านี้ ขณะเดียวกันเสียงเบสที่เหลือเฟือมันค่อนข้างจะกลบเสียงกลางกับเสียงแหลมไปพอสมควร ยิ่งตอนใช้ Phono Pearl ที่คัปปิ้ง ด้วย C ค่า 2.2uF ผมคิดว่าเสียงกลางแหลมนั้นโดนพลังเบสกลบจนหมด จนกระทั่งเปลี่ยน Phono ที่ใช้ค่า 10uF เข้าไป รายละเอียดของเสียงกลางแหลมจึงแสดงตัวออกมามากขึ้น

แนวเพลงร็อคเหมาะกับ 810 มาก โดยเฉพาะอัลบัม Pink Floyd The Wall (ช่วงเดินเบสในเพลง Another Brick มันมากครับ) แต่ถ้าฟังแจ๊ส ผมคิดว่าเสียงดับเบิ้ลเบสมันใหญ่ไปนิดหนึ่ง ดังนั้นมันเหมาะกับฟังเพลงป๊อป ร๊อค เมทัล ได้อย่างมันส์แนนอนครับ หรือท่านใดที่ชอบพละกำลังแอมป์มาก ๆ ห้องที่ใช้ใหญ่ ๆ 810 เป็นคำตอบทีท้าทายมาก


ส่วนตอนที่ 810 ขับลำโพงวงรี 80 บาท นั้น เสียงที่ได้กลับนิ่งกว่า โดยเฉพาะเสียงกลาง (ลำโพง FullRange ดอกเดียว ยังไงต้องเด่นเสียงกลางแน่ ๆ และเสียงดนตรีส่วนใหญ่ ความถี่ในย่านเสียงกลางคือหัวใจสำคัญของความเป็น Music) จนหลายคนอดทึ่งไม่ได้ ผมเดาว่าอาจจะเป็นเพราะมันตั้งอยู่ในที่โล่งแจ้งกว่าในห้องมาก ทำให้คลื่นเสียงความถี่ต่าง ๆ ไม่วกไปวนมากลบกันเหมือนอยู่ภายในห้อง (แต่ผมก็ไม่คิดว่าใครจะทำ 810 เอาไว้ขับลำโพงวงรีหรอกนะครับ ถ้าเป้นอย่างนั้นมันเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนไม่มีผิด)

[DIY Man.]

ไม่รีวิว 810 SE ด้วยหรือครับ อยากรู้แนวเสียงอ่ะครับ..

              810 ถ้าจะเอาแบบเต็มๆ หน่อยก็คงต้องเชิญขึ้นชั้นบนครับ ต้องให้สมาชิกกลุ่มนักเลงแผ่นดำซักท่านมา Review เสียงให้ฟังครับ ผมไม่ได้ขึ้นไปกะเค้าเลย 

[LOUIS]

ไม่รีวิว 810 SE ด้วยหรือครับ อยากรู้แนวเสียงอ่ะครับ..

[DIY Man.]

               EL34 SE ตัวนี้เสียงก็น่าสนครับ จำได้ว่าเสียงมันแว่วผ่านออกไปสะดุดหูตั้งแต่ผมเพิ่งเดินทางมาถึงหน้าประตูรั้วหน้าบ้านตอนที่ผมได้มาถึงพร้อมๆกันท่านผู้พันเลย (แต่ต้องขออภัยผมจำไม่ได้จริงๆว่าพี่เจ้าของมีนามว่าอะไร??) ยังไงเข้ามาให้รายละเอียดวงจรและการสร้างต่อด้วยนะครับพี่ เห็นบอกว่า OPT พันเองกับมือเลยแหละครับ น่าสนใจในรายละเอียดภายในยิ่งนัก
               เรียบง่ายแต่ดุดันครับเจ้า EL34 ตัวนี้ เด่นที่พละกำลังและรายละเอียดดีเลยแหละครับ จำได้ว่าอัดกับ Album # Brasso Track 2 กลองจีนตอนกระหน่ำนี่หนังตึงเปรี๊ยะครับ...ขอบอก แม้เสียงร้องจะยังไม่ค่อยหวานระรื่นเนียนหูนัก (Style EL34 อาการอย่างนี้ต้องเจอ Philips หรือ Mullard ครับ) แบบหลอด DHT หรือ Power Triode แต่ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกนึงเพราะหลอดเบอร์นี้เรายังหาภายในประเทศได้ไม่ยากนักครับ

[DIY Man.]

ได้เลยครับ...มาถึงโต๊ะหมู่บูชา แอมป์ที่ได้ชื่อประจำ Board ว่าใช้เวลาในการสร้างนานที่สุดดดดด
                 
                เอาแค่ความเห็นผมนา....ไว้รอท่านอื่นบ้าง 
                เป็นที่น่าแปลกใจของผมครับ 1626 SE ของคุณไทเมื่อแรกส่งเสียงออกมาให้ผมได้ยิน มันให้เสียงที่พริ้วนุ่มถูกใจผมมากครับ ปกติเจ้า Darling ที่ผมเคยฟังมักจะมี Tone เสียงที่เข็มข้นและจะจัดจ้านและดีตรง Dynamic แต่ตัวนี้นุ่มหูแบบสุภาพนิ่มนวลผิดคาดครับ ปลายแหลมผมคิดว่าฟังดูหดๆไปนิด ลองแก้ดูที่ตัว Coupling Cap ครับ ตบท้ายด้วยเพิ่มค่า Rgrid ที่หลอด O/P อีกหน่อยก็จะเพิ่ม Dynamic และความเข็มของมวลเสียงได้อีกเช่นกัน  แต่โดยรวมเสียงมันน่าสนใจทีเดียว (ถูกใจผม )  สำหรับแอมป์ Miliwatt ขนาด 700 กว่าๆ mW ตัวนี้ คิดว่าคงเป็นผลพวงมาจากอุปกรณ์ประกอบทั้งหมด อาจหมายรวมถึงเวลาที่ใช้ในการทุ่มสร้าง....555555 ถือว่าคุมคุณภาพได้ดีแล้วครับ ภายในที่ผมเห็นตอนหงายดูก็แจ๋วครับ ท่านนี้ HW ได้งามมากเลย ผมว่า Working Point หรือการ Matching ระหว่าง Stage ดีแล้วคิดว่าคง Tweak แต่อุปกรณ์ RC ก็ยังเล่นได้อีกเยอะครับพี่
                แต่งานครั้งนี้ยังมี 1626 Star War หมูกระทะ ของคุณ OUI ที่วางข้างๆกัน ผมได้ยินเสียงได้ไม่ถนัดนัก(จำไม่ได้) หรืออาจไม่ได้ฟังเต็มที่ตอนไปรินขวดแดง รบกวนท่านสมาชิกที่ได้ฟังเต็มๆ มาช่วยกัน Review ด้วยนะครับ 

[DIY มด]

อ่านกระทู้นี้แล้วนึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ได้ฟังแอมป์ตัวไหนเป็นเรื่องเป็นราวเลยสักตัว มัวแต่กินไก่ย่างแกล้มกับขวดเขียวซะเพลิน  
ที่ฟังนานที่สุดน่าจะเป็นเจ้า 6DN7 ของคุณ DIY Man นั่นแหละ smooth และ tonal Balance ดีมากครับ ทำให้ผมอยากกลับไปต่อเจ้า 6EM7 ขึ้นมาใหม่เหมือนกัน พอดีเพิ่งได้ 6EM7 sylvania มาคู่นึงพอดี  

แต่ที่ผมทึ่งมากๆสำหรับเหล่า hardcore DIY ในงานนี้คือ เรื่องความคิดสร้างสรรค์ครับ   ทั้งแอมป์โต๊ะหมู่คุณไท แอมป์ยานอวกาศคุณ Oui แอมป์ 810 SE ของพี่ฆฤณ และของเพื่อนๆ พี่ๆ อีกหลายท่านที่ไม่ได้กล่าวถึง และที่สำคัญคือเสียงดีด้วยครับ และงานนี้ก็ได้เห็นการผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยีเก่า และใหม่เข้ามาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

ผมมีไอเดียว่า งานหน้าน่าจะมีการเล่นดนตรีกันสดๆ จริงๆ โดยพวกเราเอง เอาแบบ Acoustic version ก็ได้ เสียงจะได้ไม่ดังมาก เอาไว้เป็นข้อมูลอ้างอิง เปรียบเทียบ หรือเพื่อความบันเทิง ก็แล้วแต่สะดวก

หรือใครมีแอมป์ solid เจ๋งๆ เสียงดีๆ ที่คิดว่าแอมป์หลอดอาจต้องยอมสยบ ก็ไม่เลวนะครับ ไม่แน่ว่าอาจทำให้หลายๆคนเบี่ยงเบนได้เหมือนกันนะ  

[DIY Man.]

2A3 SE ตัวนี้ของพี่สิงห์หนวดงามใจดีของพวกเราครับ
                   ตัวนี้เด็ดที่วงจร Drive ครับ สุดจะสลับซับซ้อน เป็น 2A3 SE ตัวแรกที่ขับด้วย 12AU7 ที่ผมเคยฟัง รบกวนพี่สิงห์มาให้รายละเอียดด้วยนะครับ ผมสนใจ Driver Stage  Concept มากกกก ผมว่าพี่สิงห์ทำออกมาได้ดีครับ เสียงเต็มไปด้วยรายละเอียดตาม Style ของหลอด AU แถมประกบด้วย 256 Step Volume โอ้ย....เด็ดครับพี่น้อง Step Volume มัน Work ครับ ผมกำลังจะลงมือบ้าง
                    แอมป์ตัวนี้มาในแบบ Version กระสือ อุตส่าห์ขนใส่ MotorCycle  :cc_scooterจากสวนผักมาให้พวกเราฟังนะพี่สิงห์ นับถือพี่จริงๆ งานนี้เลยทำให้พวกเราได้ลอง Tweak อะไรๆ กันสนุกครับ เป็นภาคที่กระเป๋าโดเรมอนของพี่รักหลอดเปิดเข้าออกอย่างสนุกสนาน เจอ 12AU7 Mullard /Clear Top เปลี่ยน OPT เปลี่ยน Coupling Cap   และอีกหลากหลาย ได้ประสบการณ์ทางเสียงที่แปรเปลี่ยนไปกันอย่างสนุกสนานครับ
                    คราวน่าลงแท่นเรียบร้อยแล้วอย่าลืมเอามาลองอีกนะครับพี่  
                    (จากภาพจะเห็นว่าท่าน Alex2000 กำลังยืนพากษ์สรรพคุณของเจ้าแอมป์ตัวนี้อยู่ครับ หน้าตาเริ่มเข้มจากฤทธิ์ของขวดเขียวนิดๆแล้วครับ...อิอิ)  

[xthaix]

วานคุณ DIYman และท่านอื่นๆ วิจารณ์ 1626 โต๊ะหมู่ ของผมด้วยครับ... 
อยากจูนเสียงเหมือนกัน แต่เป็นแอมป์หลอดตัวแลก ขาดประสบการณ์ ผมเลยต่ออุปกรณ์แบบโมฯยาก มันพ่วงกันไปหมด แค่จะเปลี่ยน C คับปิ้งสัญญานก็ต้องรื้อออกหลายตัวเชียว ...คราวหน้าจะแก้ตัวครับ 

[paganini]

เสียดายผมไม่ได้ฟัง 2a3 ของ MasterAT ถ้าต้องการฟังเสียงต้องทำยังไงดีครับ เพราะ 2a3 อยู่ในโปรเจ็คดองเค็มของผมอีกตัวนึงเหมือนกัน 

[DIY Man.]

             2A3 ตัวที่สองครับ ของท่าน Masterat หน้าตาเรียกร้องความสนใจจากบรรดาสมาชิกได้เยอะทีเดียว   รวมถึงผมด้วยครับ ใจจริงคืออยากจะฟัง OPT C- Core ของแสงทองรุ่นใหม่เป็นครั้งแรกในชิวิตครับ
             เสียงกลางไปจนสุดปลายแหลมดีมากเลยครับ ทำให้ผมสนใจหลอด 2A3 จีนขึ้นมาเลยทีเดียว เสียงนุ่มถูกใจหูผมมากครับ ประดุจ "Smooth as Silk" เห็นคุยกับผมก่อนหน้าผู้สร้างกลัวว่ามันอาจจะขลิบเพราะ Driver มันแรงไป แต่ที่ได้ฟังวันนั้นก็ไม่พบว่าปลายมันจะขลิบตอนโหนเสียงหรือ Dry เลยครับ  ผมคิดว่า Working Point ที่ Setup มาถือว่าใช้ได้ครับ  ผมว่ามันได้อนิสงค์จาก OPT มากโขทีเดียวเลย (อย่าลืมต่อรองและ Group Buy นะครับเพ่)
             คิดว่าคงไม่ต้องพูดถึงฝีมือการทำเครื่องหลอดของ DIY ท่านนี้ ประสบการณ์สูงมากครับ โดย Review ผมเองมี Comment นิดเดียวครับ ตอน Test กับ Album เหล่าเกอ ผมกับพี่รักหลอดเห็นตรงกันคือเสียงย่านต่ำของ OPT C-Core มันยังไม่ค่อยจะมีมวลออกมาครับ แต่โดยรวมกลางแหลมถือว่าสอบผ่าน ถ้าทำเสียงต่ำได้ดีๆ เป็นจังหวะหนักแน่นกว่านี้อีกซักนิด ผมว่า OPT อย่าง Tango นี่ไม่ต้องซื้อมาเล่นเลยครับ

[paganini]

เมื่อฟังแอมป์หลาย ๆ ตัว ผมพบว่า การที่เรา DIY นั้น เราจะจูนเสียงตามที่เราชอบ หรือ source ที่เรามีในการจูนเสียงค่อนข้างจำกัด ตอนที่เล่นกับซิสเต็มตัวเองเสียงดีน่าพอใจ แต่เมื่อต้องมาผจญกับซิสเต็มที่หลากหลายรูปแบบอย่างในวันนี้ บางตัวทำได้แค่พยุงตัวไม่ให้วิ่งออกนอกลู่เท่านั้น ผมจึงไม่แปลกใจว่าค่าวิจัยของเครื่องคอมเมอร์เชียลจึงมีค่าสูงไปด้วยครับ

ส่วนเรื่องหลอดที่เราลองกันทั้งหลอดใหม่รัสเซีย หลอด Nos คุณภาพเสียงและสไตล์นั้นต่างกันอย่างเด่นชัด แต่ถ้าลองบวกลบตัวเลขหลอดแล้วก็จะได้รับคุณภาพเสียงนั้นไปตามราคาที่จ่าย...

[DIY Man.]

(ไม่ต้องเกรงใจ ....แต่เฉพาะของผมนะครับเฮียปอ....55555 )
    เอ้า.....เริ่มเลยนะครับ
            2A3 SE ปีนี้ได้ฟังกันหลายตัวครับ ตัวแรกนี้ของท่าน Alex2000 โฆษกลีลาเด็ดประจำงานของเรานั่นเอง ผมเห็นแล้วมันแทบจะเป็น Russian Tube Amp เลยครับ 2A3 Drive ด้วย 6SN7 เดิมๆเสียงดีใช้ได้ครับแหลมๆ ใส ๆ ตาม Style ของ DHT แม้หางเสียงจะยังไม่ค่อยเนียนตามแบบของ Russian Tube ความเห็นผมฟังว่าเสียงบางและ DRY ไปนิดนึง เสียง Bass ก็แผ่วด้วย แต่ก็คิดว่าแก้ไขจาก Working Point ได้อย่างแน่นอน เห็นท่านอาจารย์มดได้ Comment ว่าอาจจะเกิดจาก OPT มันตัวจิ๋วไปหน่อยนึง สรุปท้ายสุดวันนั้นเราได้ลองเอา 2A3 และ 6SN7 RCA แท้ๆ เสียบลงไปแทน และตบท้ายด้วยเปลี่ยน Rectifier GZ34 Mullard โอ้ว....สุดยอดครับ เสียงเป็นคนละเรื่องเลย แต่เจ้าของเครื่องฟังแล้วรู้สึกหน้าตาท่านจะเป็นกังวลเล็กๆ ครับ....และเปรยว่า......สงสัย..ตู.....คงต้องหมดอีกหลายตังค์แน่เลย

[paganini]

จะให้ Review แบบไม่เกรงใจเลยไหมครับ  เพราะมีหลายประเด็นที่น่าสนใจเหมือนกัน

[DIY Man.]

               สวัสดีเพื่อนๆ ครับ ผมอยากเปิดให้กระทู้นี้เป็นแนวทางในการต่อยอดเกี่ยวกับ Technic ต่างๆ ในการ DIY แอมป์หลอดครับ นานๆมีทีก็เลยไม่อยากให้มันผ่านหูผ่านตาพวกเราไปซะเฉยๆ หลังจากที่สมาชิกเราหลายๆท่านได้พบได้ยินได้ฟังกันในงาน Half Year Meeting ที่ผ่านมา เลยอยากจะเปิดกว้างให้พวกเรารวมถึงผู้สร้างมาช่วย Review พร้อมปัญหาและอุปสรรคในการสร้างรวมถึงรายละเอียดส่วนประกอบของวงจรถ้าเป็นไปได้ครับ เพื่อเป็นแนวทางต่อยอดไปในอนาคต และที่สำคัญเสียงครับ ว่าหลายท่านที่ได้ฟังคิดเห็นและรู้สึกอย่างไร ตรงใจอย่างที่ท่านอยากได้บ้างใหม?? หรือควรต้องปรุงเพิ่มเติมอะไร?? ช่วยกันแสดงความคิดเห็นออกมาเลยครับ
               ผมอยากให้มันเปิดกว้างและนำเอาไปต่อยอดของนัก DIY รุ่นใหม่ๆ รวมถึงผ๋มได้ทดลองเล่นต่อ สนุกๆ กัน สุดท้าย Comment จะออกมาอย่างไร คิดว่าท่านสมาชิกเจ้าของเครื่องที่น่ารักและทุ่มเทเพื่องานนี้ทุกๆ ท่านคงจะไม่ว่ากันนะครับ ผมคิดว่าพอเรารู้แนวทางเสียงที่ออกมาเราก็จะค้นกลับไปได้ว่ามันเกิดความเป็นมาอย่างใดเสมอ จะได้ทำเครื่องได้สำเร็จและได้เสียงที่มันตรงใจเราได้ง่ายขึ้นครับ