ผมขออนุญาติเลยนะครับ
เกี่ยวกับตึกhi-fi center โดยส่วนตัวผมคิดว่าทำเลที่ตั้งของตึก
ไม่ค่อยดีครับคืออยู่ลับหูลับตาคนมากๆเลยครับ
ถ้าไม่ใช่คนที่อยู่ย่านระแวกนั้น
ยากครับที่คนอื่นๆจะรู้จักว่าตึก hifi อยู่ตรงไหน
เต็มที่น่าจะเห็นแต่ big c ครับ
และทุกครั้งที่ไปก็ต้องเอารถไปจอดที่big c
บรรยากาศด้านนอกตึก ก็ไม่โดดเด่นครับ
อยากคือถ้าไม่เห็นพวกลำโพง
หรืออะไรที่เกี่ยวกับเครื่องเสียงวางเรียงกันอยู่
บางทียังรู้สึก..ว่าเข้าไปผิดตึก..หรือเปล่าเลยน่ะครับ
บรรยากาศภายในค่อนข้างเงียบเหงาครับ
แต่การจัดตกแต่งของแต่ละร้านก็โอเคครับ
ส่วนคนไม่ค่อยมีไปเดิน น่าเกี่ยวกับทำเลของตึกไม่ดีมากกว่าครับ
ถ้าผมเป็นร้านค้า ผมก็คงหนีไปขายที่อื่นเหมือนกันครับ
เนื่องจากทำเลไม่ดีเอามากๆเลยน่ะครับ
ไปเป็นร้านค้าอยู่ตามห้าง คิดว่าน่าจะดีกว่าเยอะเลยน่ะครับ
อย่างน้อยๆ คนเดินก็พลุกพล่านกว่าแน่นอน
โอกาสที่จะได้ลูกค้าก็น่าจะมีเยอะกว่าน่ะครับ
ในบ้านเราผมคิดว่ายังมีน้อยคนที่เล่นเครื่องเสียง
เพราะไม่ค่อยได้เห็นมั้งครับ..
อย่างเช่นพวกโปรเจ็คเตอร...์ และอีกหลายๆอย่างที่ระดับโปร เขาเล่นกัน..
เดินตามห้างทั่วๆไปหมดสิทธิล่ะครับ อิๆ
เต็มที่ ต่อให้เดินเล่น ก็แถวพาวเวอร์บายมั้งครับ
แต่ผมเชื่อเลยว่าคนที่เดินตามห้างทั่วๆไป
ถ้าเขาได้มีโอกาสได้เห็นเช่นเดียวกับในตึกhifi
ผมว่ายังมีคนอีกหลายร้อยพันคน..
ที่ เขาก็อยากจะเล่นเครื่องเสียง
และอยากมีไว้เล่นด้วยบ้าง
เหมือนกันกับเราๆแน่นอนครับ..

ขอเสริมอีกนิดนึงในส่วนของการขายสินค้า
ีก็อยากให้มีโปรโมชั่น หรือของแถมอะไรพิเศษๆบ้างครับ
และในส่วนของราคาสินค้าที่ราคาสูงๆ เป็นแสนขึ้นไป
ก็น่าจะมีการจัดโปรโมชั่น 6-12 เดือน 0% จะกี่% ก็ว่ากันไป
นานๆมีทีก็ยังดีน่ะครับ
อันนี้ก็แล้วแต่ความเหมาะสม
และความสะดวกของแต่ละร้านละกันครับ
แต่ถ้าทำได้ผมว่าก็น่าจะมีส่วนช่วยได้เยอะเลยล่ะครับ
้สำหรับคนที่สนใจ ..ที่อยากจะซื้อ..
สะดวกสำหรับคนงบน้อยแต่กิเลศเยอะ แต่ก็อยากเล่น อิๆๆ

อันนี้..น่าจะมีเยอะเลยล่ะครับ..
ลองๆคิดดูเล่นๆละกันครับ
และที่แน่นอน
คนไทยในประเทศไทย
คือยังไงก็ยังมีคนยากจนมากกว่าคนรวยครับบ..
เรื่องทำเลที่ตั้งของตึก
จิงๆแล้วผมก็คิดว่ามันเป็นปัญหาที่น่าจะแก้ไขได้
ถึงจะเป็นไปได้ยากและอาจจะต้องเหนื่อยมากหน่อย
อันนี้ก็คงอยู่ที่ความสามารถของทางฝ่ายบริหารล่ะครับ
ถ้าให้ดีที่สุด ทุกๆฝ่ายต้องร่วมมือร่วมใจกันด้วยยิ่งดีครับ..