รู้ไปก็เท่านั้น!!!! (ตอนจบแล้วมั๊ง)
ก็ต้องออกตัวเหมือนเดิมว่า ข้อเขียนต่อไปนี้ผมตั้งใจจะแนะนำให้แก่มือใหม่ที่ยังไม่เคลียร์กับเรื่อง 2 Ch ท่านผู้ใดที่วิชาแก่กล้าแล้วก็ผ่านได้เลยครับ จะรำคาญเปล่า ๆ
สืบเนื่องจากระยะนี้เห็นมีถามกันถึงเรื่อง จะเป็น AudioPhile หรือ เป็น Music Lover กันมาบ่อยเหลือเกิน หรือไม่ก็ถามหาถึงแผ่นซีดีที่อัดมาได้ บรรยากาศ,เวทีเสียง มิติ และอีกจิปาถะ
ไม่ว่าจะทำอะไรเริ่มต้นก็ต้องหัดก่อนทั้งนั้นแหละครับ ยังจำครั้งที่คุณขี่จักรยานครั้งแรกสมัยเด็ก ๆ ได้มั๊ยครับ กว่าจะเป็นมันต้องล้มลุกคลุกคลานแค่ไหน หัดเล่นเครื่องเสียงก็เหมือนกันแหละครับ กว่าจะเป็นก็ต้องหัดฟัง และก็หัดโดนร้านค้าที่ไม่จริงใจฟันซะบ้างตามระเบียบ
เบิร์นหูตัวเองก่อนครับ !!!!
คงทราบกันดีแล้วนะครับว่า สายสัญญาณ สายลำโพง ตัวเครื่อง
ล้วนแล้วแต่ต้องเปิดใช้สักระยะ (มักจะเรียกกันว่าเบิร์น) เสียงจึงจะค่อยกลมกล่อม และมีรายละเอียดที่ดีเพิ่มมากขึ้น กว่าครั้งแรกที่ซื้อมาแล้วเปิดเลย หลายคนต้องอุดหูเดินหนีเลยทนเสียงที่ยังไม่เข้าที่ไม่ได้
หูเราก็ต้องเบิร์นเหมือนกัน แต่ว่าตรงข้ามกับสาย หูต้อง"หัดฟัง"
(เหมือนจักรยานที่ต้องหัดขี่) ผมแนะนำแผ่น 3 แผ่นครับ
1. Jennifer Warn " The Well" หรือนักร้องอื่นที่คุณโปรด
2. ๋Johan Strauss แผ่นฮิตที่มีเสียงปืนใหญ่นั่นแหละ
3. Midnight Lounge
3 แผ่นสามไสตล์ ฟังไปเรื่อย ๆ นะครับ ฟังให้บ่อยครั้งที่สุด ว่างก็เปิดฟัง จนคุณสามารถจำได้ว่าหนูเจนนิเฟอร์ร้องประโยคนี้เสร็จเสียงฉาบหรืออย่างอื่นจ ะต้องมารับตรงนี้เป๊ะทุกครั้ง เสียงเปียนโนจากแผ่นสามลักษณะมันเป็นไงหัวเสียงมันคล้ายกับเสียงเปียนโนจริง ๆ ที่ได้ยินมั๊ย จำอีกครับ เปียนโนเล่นไปมีเสียงเคาะอะไรตามมาท่อนไหนช่วงไหน มันกังวานขนาดไหน จำให้หมด
แผ่นที่สองให้จำลักษณะเวทีของเสียงว่ากว้างแค่ไหน เวลาเครื่องดนตรีเล่นพร้อมกันทีนึงสามสี่สิบชิ้นเครื่องเราแจกแจงได้แค่ไหน
คงต้องใช้เวลากับการฟังพอสมควรแหละครับ แล้วแต่แต่ละบุคคลว่าเร็วขนาดไหน ถ้ามั่นใจแล้วก็........
เริ่มขยับตำแหน่งลำโพง ขอคุยเฉพาะลำโพงเล็กนะครับ โดยทั่วไประยะห่างของลำโพงเล็กจะประมาณ 1.7 ถึง1.8 กว่า ๆ วัดจากทวีตเตอร์นะครับ ด้านหลังห่างกำแพงไม่น่าจะเกินเมตรครึ่ง ต้องดูจากสภาพห้องด้วย
ถ้าเสียงที่ได้ยินรู้สึกว่านักร้อง หรือกลองมันออกบาง ๆ ให้ขยับลำโพงเข้าหากัน แต่ถ้ารู้สึกว่าเสียงจากแผ่นที่สองมันออกมั่วไม่แยกแยะก็ขยับออก เรื่องโทอินโทเอาท์ ยังไม่พูดถึงนะครับ
มื่อตำแหน่งลำโพงให้เสียงที่น่าพอใจแล้ว ก็ฟังไปอีกสักระยะ
ตอนนี้คุณจะเริ่มรู้สึกว่าเพลงแต่ละเพลงนี่มันน่าฟังแฮะ
กระบวนการสุดท้ายแล้วครับ........ ไปหยิบยืมบรรดาAccessoriies ทั้งหลายจากเพื่อน ๆ มาหัดเล่น อย่างเช่นทิบโทแล้วฟังใหม่ ว่าเสียงที่ได้มันคมชัดขึ้น แต่แหลมไปมั๊ย ขยับทิบโทไปมาหาตำแหน่งที่ดีให้มัน ตรงนี้จะเป็นการจูน โทนบาลานซ์ของเสียง เสียงแหลมบางไป เสียงทุ้มไม่พอ ลองเล่นสายสัญญาณต่าง ๆ ดูว่าเส้นไหนให้เสียงที่ดีหรือเราชอบ
แค่นี้ก็สนุกสนานกันได้เป็นปี ๆ แล้วครับ เรือ่งว่าจะ Phile หรือไม่ Phile อย่าเพิ่งไปสนใจมันเลย
ลืมไปเรื่องนึงที่ขาดไม่ได้จริง ๆ ต้องตะเวณไปฟังห้องเพื่อน ๆหรือตามร้านค้าด้วยครับ ชุดที่เค้าเซทไว้ดี ๆ ให้ Ambience
Sounstage , Impact Dynamic ความสด ฯลฯ..........
ต่างไปจากชุดเราขนาดไหน จำอีกแหละ เอามาปรับปรุงชุดเราให้เข้าที่เข้าทางเหมือนเค๊าบ้าง ก็เอาแค่เครื่องที่อยู่ในระดับราคาเดียวกันกะของเราเป็นเกณท์นะครับ (เดี๋ยวมันจะยุ่งไปกันใหญ่) เซทจนรู้สึกว่า เอ๊ะ,,, ชุดเราก็ไม่แพ้เค๊าเท่าไหร่นี่หว่า
นั่นแหละครับคุณหาจุดยืนการเล่นเครื่องเสียงของคุณเจอแล้ว
Let's enjoy the music!!!!!!!!!
Bye Bye
โดยคุณ Mung [ จันทร์ที่ 30 มิ.ย. 46 (08:26 น.) ] 203.149.40.54
ที่มา
http://www.htg2.net/webboard2/view.php?No=12549