ห้องเป็นห้อง รับแขกของบ้านครับ ไม่ได้แพลนไว้ว่าจะเป็นห้อง Hometheater แต่อย่างไร
ขนาดของห้อง 6x7ม สูง 10ม ครับ


มีรูปเล็กๆน้อยๆระหว่าการเซ๊ตห้องโดยทีมงานมือโปรของพี่โก้ IAV มาฝากครับ
รายการอุปกรณ์
Speaker: Center - PSB Imagine C
Left and Right - PSB Imagine T
Surround - PSB Imagine B
Receiver: Pioneer SC-LX71
Subwoofer: Two IAV Accuris Musus 12" Subwoofer
Subwoofer Amp: M2500












ขอบคุณครับ
ด้วยประสบการณ์ที่มีไม่มาก คงไม่สามารถเปรียบเทียบเป็นเรื่องเป็นราวได้มากครับ
แต่ที่สามารถพอเล่าได้ก็คงตอนเป็นที่ค่อยๆเซตตำแหน่งของ Speaker ปรับจูนเสียง และวัดค่าเฟสของแต่ละลำโพงและปรับ
ให้ดึงคุณภาพเสียงออกมาให้มากที่สุดสำหรับลำโพงตัวนี้ครับ
Initial Impressionลำโพง PSB Imagine เป็นลำโพงออกใหม่ของค่าย PSB ที่มีความสวยงามของตู้ลำโพงในระดับดี เมื่อเอาไปเทียบกับงานของ Whafedale, Klipsch, Paradigm ที่ไปฟังมาครับ
PSB Imagine T เป็นลำโพงแบบ 4ohm ที่มี sensitivity ระหว่า 88-90dB ซึ่งไวมาก และสามารถขับได้ง่าย
เป็นเหตุผลที่เลือก Pioneer LX71 ซึ่งเป็น Class D amp เนื่องจากมีเทคโนโลยี่และตัวชิพใหม่ๆ อัดอยู่เพียบ
แต่ก็อดห่วงไม่ได้เพราะเป็น Class D ออกแบบมาโดย B&W ซึ้งเน้นเอาไว้ขับพวกลำโพง 8ohm และอาจจะทำให้มีปัญหากับพวก load 4ohm ครับ
แต่พอเอามาติดตั้งวันแรก PSB Image + Pioneer LX71 ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ตั้งไว้หยาบๆ เสียบลองเปิดเพลงออกทาง coax จาก CD เก่าๆดู
ชุดนี้ก็สามารถปล่อยเสียงออกมาได้อย่างเป็นที่พอใจครับ จนแทบจะคิดว่าไม่ต้องปรับแต่งอะไรเพิ่มเลย เสียงที่ออกมาก็เต็มอิ่ม ไม่ได้ขาดหายอะไรที่ชัดเจนครับ
การติดตั้งอันนี้ mojo พี่โก้ และพี่มาร์ค IAV โดยตรงครับ ทีมงานทำงานได้รวดเร็วและเรียบร้อยมากๆ การเลือกให้สาย คุณภาพCanare ที่มี 4core
ถึงการเก็บสายอ้วนดำ เข้าผนังเข้ามุมเดินรางแบบร่องหน จนไปถึงการวางตำแหน่งลำโพงคู่หน้า กลาง และโดยเฉพาะสองลูกหลังที่ต้องยิดผนัง
ทำได้รวดเร็วและเรียบร้อยมากครับ ทำเองคงคลำกันเป็นอาทิตย์หรือถึงเดือนแน่ๆ อันนี้ครึ่งวันจบ
Pioneer LX71 Receiver Pioneer LX71 Receiver ใหม่ค่าย Pioneer อัดแน่นไปด้วย THX Ultra II Plus certification, ชิบดีโคตภาพและเสียงตัวหม่ล่าสุด
และ Class D amp ระบบ ICEPower ของ B&W ที่มีความสามารถในการขับสูง ทำให้ไม่ร้อน เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นมากๆเมื่อเทียบกับ Onkyo, Marantz, Denon
ในราคาที่ใกล้เคียงกันครับ
Pioneer ตัวนี้รองรับระบบได้ถึง 7.1 ซึ่งเกินความจำเป็นของห้องที่เลือกใช้เพียง 5.1 ทำให้สามารถเลือกผ่านทาง setup ของ LX71 ที่จะเอาช่อง Surround L and R มาทำเป็น Bi-amp ได้ครับ
ซื่งก็น่าจะเป็นผลดีต่อการขับลำโพง 4ohm แต่ก็ไม่ได้มีโอกาศเปรียบเทียบนานมากนักว่า Bi-Amp ช่วยอะไรได้บ้าง
เพราะมัวแต่เร่ง Set กันให้เสร็จ คงช่วยเจ้าของมือใหม่ให้หายห่วงเรื่อง class D ครับ ก็เลยทำ bi-amp เอาไว้คู่หน้า
Fine Tuning และผลครับเมื่อการติดตั้งลำโพงและ Subwoofer Accuris Musus 12 ซึ่งหนักข้างละกว่า 50โลสองตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ก็เป็นครั้งแรกที่มีโอกาศได้ฟังเสียงเต็มๆ ของชุดโดยที่ยังไม่ได้ปรับแต่ครับ ซึ่งตอนฟังผ่านๆ เสียงออกมาดีมาก
ครอบคลุมได้ทั่วห้อง เปิดเป็น stereo เสียงจากคู่หน้าครอบคลุมห้อง 6x7ม เหลือๆครับ CD Diana Krall นพพรชำนิ อัญชลี
GrooveRider ทีร์ชัยเดช ถูกขับออกมาได้อย่างน่าฟัง ครับ ทำให้เพลงเก่าๆกลับมามีชีวิตชีวาอกครั้ง เสียงๆเล็กๆน้อยๆที่ีไม่เคยได้ยิน
ก็เปิดกว้าง เพราะมากครับ
ฟังได้ซักพักก็เข้าระบบ fine tuning ตอนแรกใช้ auto tune ของ Pioneer ก่อน โดนผ่าน microphone ตัวเล็กดำ ที่มากับเครื่อง
ระบบออกโต้เทสครอบคลุมไปถึง Channel Phase, Channel Delay, Speaker Distance และอีกหลายๆตัวที่ ซึ่งพี่โก้บอกว่าวัดได้ละเอียดกว่าตัวอื่นมาก
และ Receiver ในราคานี้ไม่ค่อยมีให้เห็นครับ ซึ่งก็ใช้ได้ดีในระดับหนึ่ง
แต่พอมาวัดค่าจริงๆด้วย microphone ของพี่โก้ ซึ่งราคาคงพอๆกับ Receiver ของผม ก็พบจุดอ่อนหลายๆจุดของ ค่าset อัตโนมัติ อาจเป็นเพราะห้อง
ที่มีจุดอ่อนหลายๆจุด และค่า Phase ที่ยังไม่ลงตัวครับ
เซตกันอยู่รวมๆแล้ว เกือบ 5-6 ชั่วโมงกับระบบ 5.1 บ้านๆ วัดและปรับค่า frequency response, resonance, sound level, phase adjust, speaker placement
etc etc. และหลายๆตัวที่ไม่รู้ว่าอะไร เบ็จเสร็จ เจ้าของบ้านกด เซฟ ค่าต่างๆ อย่างเดียว และก็ enjoy ครับ
ก่อนและหลังผลต่างกันพอสมควรครับ เพราะใช้เวลา set กัน สองวัน ทำให้มีเวลาอยู่กับเครื่องเสียงสองคืน คือคืนก่อน finetuning และหลังครับ
บอกได้เลยว่าต่างกันมาก อันที่เราว่าดีแล้ว พอใจแล้ว กลับสามารถเค้นออกมาได้อีกมากมาย Sound Stage + Sweet Spot เปิดกว้างขึ้นทั่งห้อง
เสียงอุดอู้หายไป ลำโพงห้าตัวรอบๆห้องส่งเสียงเชื่อมต่อกันได้อย่างธรรมชาติ และทีสำคุญ Subwoofer สองตัวตรงมุมห้อง โชว์ power ได้เต็มที่
ต่างจากวันแรกโดยสิ้นเชิง เพราะวันแรกได้ยินแต่เบส แต่วันที่สองนี้รู้สึกได้ถึงแรงอัดใน Volume ที่เท่ากัน เพราะมีการวัดและแก้ phase ของ
Subwoofer ครับ
สรุปแล้ว เจ้าของอาจเสียโอกาศเรียนรู้ลองผิดลองถูกครับ แต่สิ่งที่ได้เรียนรู้มาคือขั้นตอนการเซตเสียงอย่างถูกวิธี ต้องเชคอะไรบ้าง และเชคอย่างไร และทำไม
คงต้องขอบคุณพี่โก้อีกครั้งครับที่ช่วยเข้ามาเซตระบบและตอบคุถามอย่างเต็มที่ครับ และที่สำคุญก็รู้ลึกๆว่า เงินที่จ่ายไปได้ถูกดึงออกมาเป็นเสียงอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยครับ

ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ
