เยี่ยมครับ 
โอ้ ขอบคุณ dr.nop ที่เข้ามาชมนะครับ

ว่าแล้วก็มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง เดิมทีแล้วผมไม่ได้เล่นเว็บ htg2.net เท่าไหร่ (เคยเข้ามาเมื่อตอนจะหาข้อมูลซื้อ AVR เมื่อหลายปีมาแล้ว พอซื้อได้แล้วก็ค่อยๆ เข้าเว็บน้อยลงๆ) ที่เข้ามาอีกครั้งก็เพื่อมาหาโปรเจคเตอร์มือสองที่ห้องซื้อขาย ปรากฏว่าเป็นเด็กใหม่ยังเข้าห้องไม่ได้ ก็เลยต้องโต๋เต๋ๆ ไปห้องโน้นบ้างห้องนี้บ้าง จนมาเจอห้อง Cinemascope และกระทู้ของ dr.nop เข้า แล้วก็เป็นแบบนี้แหละครับ 55+
และนั่นก็เป็นหน้าตาล่าสุดของโครงการนี้นะครับ หลังจากนั่งๆ นอนๆ ดูหนังดูละครผ่านเจ้า DIY Lens ตัวนี้มาได้ระยะนึง ก็มีคอมเมนท์เกี่ยวกับประสิทธิภาพของเลนส์ตัวนี้ เล็กๆ น้อยๆ ดังนี้ครับ
- Geometry Distortionเนื่องจากผมไม่ได้ใช้จอโค้ง ประกอบกับใช้ซูมของโปรเจคเตอร์เกือบสุด (เพราะขี้เกียจยึดขาจับโปรเจคเตอร์ใหม่) ผลที่ได้ก็คือขอบจอเว้าๆ (Pincushion) ทั้ง 4 ด้าน โดยเฉพาะด้านซ้าย ก็แก้แบบบ้านๆ ด้วยการซูมให้ภาพมันล้นจอนิดๆ อีกอย่างหนึ่งคือสัดส่วนของจอภาพตรงกลางกับด้านข้างจะไม่เท่ากัน อย่างของผมตั้งใจจะให้ภาพตรงกลางได้สัดส่วนถูกต้อง ก็ต้องยอมให้ภาพตรงขอบซ้ายขวามันยืดๆ แบนๆ นิดๆ
- Chromatic Aberration (CA)ภาพเต็มจอของ Test Grid ขณะใช้เลนส์

รูปถ่ายใกล้ๆ ของ CA ตรงด้านซ้าย, กลาง และด้านขวาของจอ

ในรูปอาจจะดูว่า CA ทางด้านซ้ายของจอมีมากจนน่ากลัว แต่เท่าที่ผมดูด้วยตาก็ไม่ได้แย่ขนาดในรูปหรอกนะครับ (สีจะไม่ได้เข้มแบบในรูป) ขนาดตารางที่เห็นก็กว้างประมาณ 2.5 ซม. พอดูจากที่นั่งดูหนังจริงๆ ก็เห็นน้อยลงมากครับ
- Reflection (Ghost image)ภาพสะท้อนที่ว่ามักจะเกิดตอนที่ภาพบนจอมีวัตถุสีขาวสว่างๆ บนพื้นหลังที่ดำสนิท ตัวอย่างเช่น Ending Credit ของหนัง บางครั้งเราจะสังเกตเห็นตัวหนังสือตรงกลางจอ สะท้อนไปปรากฏที่ด้านขวาของจอภาพแบบจางๆ เลนส์บางคนทำจะเห็นภาพสะท้อนที่ว่าค่อนข้างชัด เลนส์ของบางคนทำก็เห็นน้อย หรือไม่เห็นเลย เห็นเค้าว่าขึ้นอยู่กับองศาที่เลนส์ทำมุมกัน อย่างของผมนี่เห็นน้อยมาก น้อยจนถ่ายรูปไม่ติด เลยนำมาโชว์ให้ดูกันไม่ได้
- Brightness and color saturationอันนี้สังเกตเห็นได้ว่า ทั้งความสว่างและความสดของสีลดลงจากตอนไม่ใช้เลนส์เล็กน้อย เรื่อง Color Saturation ยังพอเ่ร่งจาก Setting ของโปรเจคเตอร์ได้ถ้าต้องการ แต่ความสว่างนี่คงต้องยอม เพราะผมอยากใช้โหมดประหยัด
- Picture sharpnessความคมชัดของภาพถ้าเข้าไปดูใกล้ๆ ก็จะพอสังเกตได้ว่าลดลง แต่ไม่ถึงกับทำให้ภาพเบลอ แค่ทำให้ภาพดูนุ่มลงนิดหน่อย
นี่เป็นรูป Grid Pattern ตอนไม่ใช้เลนส์ ลองดูเปรียบเทียบกับรูป Grid Pattern ตอนใช้เลนส์ด้านบน

ภาพตัวอย่างตอนไม่ใช้เลนส์

ตอนใช้เลนส์

ภาพตัวอย่างที่ผมยกมาเป็นภาพการ์ตูนที่มีขอบคมชัด เพื่อจะได้เห็นความแตกต่างได้ง่ายๆ ถ้าเป็นหนังคนแสดงทั่วไป ก็จะสังเกตยากกว่า
- Focus Shiftของผมนี่โฟกัสของโปรเจคเตอร์ตอนใช้กับไม่ใช้เลนส์จะต่างกันนิดหน่อย ทำให้ต้องคอยปรับโฟกัสเวลาใช้หรือไม่ใช้เลนส์ เนื่องจากผมขี้เกียจปรับโฟกัสบ่อยๆ เพราะโปรเจคเตอร์อยู่สูง และกลัวว่าปรับบ่อยๆ แล้วมันจะเสีย ตอนนี้ก็คิดว่าถ้าหนังที่ภาพแบบ 16:9 หรือ 4:3 เรื่องไหนที่ไม่เจ๋งจริงๆ ก็จะดูผ่านเลนส์นี่แหละ
- Horizontal Screen Position Shiftอันนี้ก็เป็นข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ คือตำแหน่งของภาพบนจอเมื่อใช้ Lens จะขยับไปทางซ้ายนิดหน่อย ตอนแรกก็คิดว่าเป็นที่ผม Set ไม่ดี แต่มาอ่านเจอทีหลังว่าเค้าว่าเกิดจากการยืดภาพของ Lens ทั้ง 2 ตัวที่ไม่เท่ากัน ถ้าจะแก้ไขก็คงต้องลองปรับองศาของ Lens ดู แต่ผมเห็นว่ามันยากจะสังเกต เลยไม่ได้แก้ไขอะไร
นั่นก็เป็นความคิดเห็นเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับเลนส์ของผมนะครับ ถึงแม้ว่าอ่านๆ ดูแล้วจะมีข้อจำกัดและข้อเสียเยอะเหลือเกิน แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่ทราบกันอยู่แล้ว ผมเลยไม่ได้รู้สึกผิดหวังอะไร และในการใช้งานจริงๆ แล้วจะเป็นการดูภาพยนต์ที่เป็นภาพเคลื่อนไหว ถ้าเป็นหนังที่ดูแล้วบันเทิงเราก็คงไม่มีเวลามาใส่ใจเรื่องพวกนี้มากนัก ยิ่งหากคิดตามหลักราคาต่อประสิทธิภาพแล้ว ก็พูดได้ว่าคุ้มค่ามากทีเดียว และผมก็มีความสุขกับการดูหนังผ่านเจ้าเลนส์ตัวนี้มากเลยครับ
