ผมขอนำรีวิว ส่วนตัวมาบันทึกเก็บไว้ที่ HTG นะครับ ขอบคุณ HTG มากๆครับที่เป็นเว็ปที่ดี ที่เกี่ยวกับคนรักเครื่องเสียงจริงๆครับ
ผมขอพูดโดยรวมถึงลักษณะเสียงของลำโพง HOME CINEMA นะครับ จะไม่ขอเน้นที่ตัวของ M&K อย่างเดียว เดี๋ยวจะหาว่าเชียร์ของ จะดูไม่ดีครับ ผมเองได้เคยลองฟังลำโพง HOME CINEMA มาทั้ง Klipsch ultra 2 และก็ Kreisel แล้วแต่ยังไม่เคยฟัง Procella นะครับ ตัวนี้เขาว่าเทพจุติเลย
คำถามแรกเลยที่ผมเจอมาตั้งแต่มีคนรู้ว่าผมมาเล่นลำโพงแบบ CINEMA นั้นคือ "เสียงดีไหม เสียงจัดมากไหม"
ตอบ : เลยนะครับว่า เสียงมันไม่เอาใจหูครับ มันสไตล์ คม ชัด จริง ลำโพงพวกนี้ถูกสร้างมาให้เสียงเหมือนจริงมากที่สุด ดังนั้น เปรียบเทียบง่ายๆเลย วันหนึงในชีวิตจริง คุณเจอเหตุการณ์รถสองคันชนกันตรงหน้า ความรู้สึกแรกของคุณ จะรู้สึกอย่างไร ตกใจไปกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าถูกไหมครับ คงไม่มีใครคิดว่า....เฮ้ย แคมรี่กะซิตี้ชนกันเสียงดีว่ะ กลางแหลมพริ้วดี ไม่จัดไม่กัดหู วันก่อนเจอ วีโก้ชนกะสามล้อ ไม่ไหวเลยเสียงแหลมกุดมากๆไม่ชอบเลย มีใครเคยเจอ คนพูดแบบนี้ไหมครับ ถ้าเจอเดินหนีครับ ดังนั้น ลำโพงชนิดนี้จึงถูกสร้างมาเพื่อให้ถ่ายทอดเสียงที่สมจริงที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ เสียงที่ท่านเคยได้ยินได้ฟังจากลำโพงปกติ จึงกลายเป็นอะไรที่น่าสนใจกว่าเท่านั้นครับ ลำโพงแบบนี้ใครรักรักเลย เกลียดก็ชอบได้ถ้าลองเจอแบบเต็มระบบจริงๆ
แล้วคำถามต่อมา "ขับยากไหมครับ เห็นดอกเล็กๆอุปทานไปเปล่าว่าขับยาก"
ตอบ : แบบจากใจเลยนะครับ ยากครับ ยากเพราะลำโพงชนิดนี้ไม่ควรเปิดเสียงเบาๆครับ ต้องเปิดให้ดังในระดับหนึงครับ ถึงจะเห็นประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ของมันครับ ยิ่งดังยิ่งมันส์ครับ...555 แต่ตอนนี้ ที่ผมใช้อยู่เปิดดังไม่ได้ครับ เพราะยิ่งดัง subยิ่งทำงาน พอsubยิ่งทำงาน บ้านยิ่งสั่น พอบ้านยิ่งสั่น แม่ยิ่งด่า พอแม่ยิ่งด่า อดดูเลยครับที่นี้....เศร้า ดังนั้นแอมป์ที่ใช้ต้องมีกำลังพอสมควร ต้องกำลังเท่าไหรถึงจะดี อันนี้ตอบยากครับ เพราะแอมป์บางตัวกำลังดี แต่กำลังสำรองไม่ดีอันนี้แย่ครับ เห็นดอกเล็กๆอุปทานไปเปล่าว่าขับยาก อันนี้ผมก็เคยคิดนะครับ แต่พอลองได้ฟังถึงรู้ครับว่า ลำโพง CINEMA อันนี้ผมพูดถึง JBL ด้วยนะครับ เป็นลำโพงที่ยิ่งแอมป์มีกำลัง ประสิทธิภาพยิ่งดีครับ เสียงสะใจครับ ดังนั้นลำโพง HOME CINEMA แอมป์ไม่ดี แรงไม่พอ หลายท่านที่ไปฟังมาส่ายหัวทุกคนครับ
คำถามที่ว่า "ห้องปกติเล่นได้เปล่า"
ตอบ : เล่นได้ครับ ได้ดีไหมอยู่ที่setด้วยครับ ลำโพงทุกรุ่น ทุกแบบ ทุกยี่ห้อ นั้นห้องสำคัญหมดแระครับ เพียงแต่ลำโพงแบบ CINEMAนั้น ถ้าอยู่ในห้องที่ทำมาเพื่อดูหนังจริงๆแล้วล่ะก็ เสือติดปีกครับ ใครที่คิดเหมือนผมว่า เออ....ซื้อมาใช้แล้วอยากนอนบนเตียงใหญ่ยักษ์ ดูสบายๆไม่ซีเรียสอะไร ผมแนะนำว่าลองหาซื้อลำโพงแบบ set in the BoX มาใช้คุ้มกว่ามากครับ เพราะลำโพงแบบ CINEMA นี้ คุณต้องค่อนข้างซีเรียสกับการดูนิดหนึงครับ ถามว่าทำไมต้องซีเรียส บ้านเราเองจะดูก็เปิด จะเลิกก็ปิดแค่นั้น....5555 ต้องลองเองครับ ลองดู LORD Of The Ring,BATMAN,หรือล่าสุด HOBBIT ล่ะก็.....ฮึฮึฮึ การทะเลาะกับคนในบ้าน กับประเด็นที่ว่า "วันๆเอาแต่ขลุกอยู่กะเครื่องเสียง ไม่คิดจะทำไรเลยรึไง" ประเด็นนี้จะกลายเป็นเรื่องจิ๊ปๆทันทีครับ หรือบางทีคุณอาจจะกล้าตอบไปเลยว่า "เออ....ผมขลุกกะคุณมาเป็นสิบปียังไม่เคยมันส์เท่านี้เลย รู้ไว้ด้วย" ศาลาไหน ฝากคนทางบ้านที่รอดชีวิตโพสบอกด้วยนะครับ....5555
คำถามยอดฮิตอีกหนึ่งคำถาม "ฟังเพลงได้ไหม"
ตอบ : ได้ครับ แต่มั่นใจว่าไม่ถูกหูคนฟังเกิน 80% แน่นอน เพราะเสียงมันจะไม่เอาใจหูเท่าไหร ความรู้สึกอยากจะฟังเพลงสบายๆ เหมือนใส่กางเกงในเสื้อยืดเดินอยู่ริมชายหาด ลำโพงอื่นให้ความรู้สึกนี้ได้แน่นอนครับ แต่สำหรับ HOME Cinema เปรียบดั่งอาวุธที่พร้อมรบ การอยากฟังเพลงสบายๆของคุณจะเหมือนกับว่า คุณใส่ชุดเกราะเหล็กพร้อมอาชาสีหมอกพร้อมรบ เดินอยู่ริมชายหาดมากกว่า ถ้าชอบฟังเพลงด้วย และอยากหาอะไรที่ฟังสบายๆ แนะนำให้หา ชุดฟังเพลงเพิ่มอีกชุดครับ จะดีกว่ามากครับผม
คำถามที่ว่า "การ Set Up ยากไหม"
ตอบ : ไม่ยากครับ แต่ก็ไม่ง่าย เพราะลำโพงแบบนี้ตำแหน่งการวางสำคัญที่สุด เพราะถ้าใช้วิธีการยึดติดผนังล่ะก็ บอกเลยว่าต้องมีประสบการณ์ครับ จะมานั้งทางในหาตำแหน่งเอง เหมือนงานล้างป่าช้า หลับตาเอาไม้ทิ่ม ไม่ได้นะครับ ต้องอ่านคู่มือให้ละเอียดก่อนติดตั้งนะครับ แต่เขาก็มีขาตั้งมาให้ใช้เหมือนกันนะครับ แล้วแต่การใช้งาน อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ล่ะคนครับ การ set up ลำโพงแบบ Cinema นั้นสำคัญ 100% ครับ SET UP ไม่เป็นเลย บอกเลยว่าไม่คุ้มครับ ลำโพงพวกนี้เมื่อเข้าห้องไหนแล้ว มันจะมีจุดที่ดีที่สุด จุดลงตรงเป้าที่สุด ในห้อง ห้องนั้นอยู่แค่จุดเดียวเท่านั้นถ้าพลาดแล้วพลาดเลยครับ ฟังดูเหมือนยากใช้ไหมครับ แต่ถ้าได้นัก set ที่มีประสบการณ์ ไม่ยากเลยครับ ลักษณะเดียวกันกับ Sub JL ครับจะมีจุดเพียงแค่จุดเดียวเท่านั้นครับที่ดีที่สุด พลาดจุดนี้ เสียงเปลี่ยนหลุดไปเลยครับ อันนี้เรื่องจริงนะครับ ไม่โม้ ไม่มุก ครับ
คำถามต่อมาคือ "Subwoofer ที่ใช้จำเป็นไหมต้องใช้ของยี่ห้อเดียวกัน"
ตอบ : จะว่าจำเป็นก็จำเป็นนะครับ หรือจะไม่ก็ได้ ถ้า Subwoofer นั้นดีกว่าหรือเทียบเท่า เพราะลำโพงชนิดนี้ถูกออกแบบมาให้ต้องมี Subwoofer เท่านั้น ดังนั้นไม่มีใครจะหาคู่ได้ดีที่สุดถ้าไม่ใช้ ออกมาจากท้องเดียวกัน ที่เดียวกัน คำถามต่อมาแล้ว "ย่องมาฟัง ทำไมไม่ใช้ Subwoofer ล่ะครับ" ตอบแบบเปิดใจเลยครับว่า ปลั๊กเสียบไม่พอครับ เพราะปัจจุบัน เวลาผมจะดูหนัง 1เรื่อง ผมใช้ปลั๊ก 12ช่องครับ ซึ่งความรู้สึกผมมันเยอะมากๆเลยครับ หลังๆผมปวดหัวเวลาเปิดปิดมาก ผมเลยใช้วิธีที่ดีที่สุดเลยคือ เปิดแค่ เครื่องเล่น กะTV แค่นั้นพอจบครับ ไม่สงไม่สนแระเสียง รอให้หนังดีจริงๆค่อยเปิดครับเต็มระบบครับ สำหรับ Subwoofer ที่ใช้กะลำโพง Cinema นั้นถ้าสมมุติ เราไม่สามารถใช้ของยี่ห้อเดียวกันได้ทำยังไง ตอบเลยครับ หาตังค์ไปซื้อ subwoofer ของมันหรือหาที่ดีกว่ามันมาใช้ครับ ใช้แบบธรรมดาๆไม่สุดแน่นอนครับ มาขนาดนี้แล้วต้องจัดเต็มครับ เพราะถ้าได้ Subที่เหมาะกับมันแล้ว คุณจะดูหนังมันส์ขึ้นอีก 300% ครับ สาเหตุจริงๆที่ผมไม่ได้ใช้ Sub ของ M&K นั้นไม่ใช่ไม่ดีครับเพียงแต่การจะให้มาใช้แทนที่มีอยู่ก็ คงไม่ได้ จะให้ใช้ 4ตัว ก็เกินความจำเป็นครับเลยต้องปล่อยออกครับผม
คำถามที่ว่า ทำไมถึงมาเล่น "HOME CINEMA"
ตอบ : ผมเองสงสัยมานานแล้วว่า ตาลุงGeorge Lucas นั้น เวลาmixเสียงหนังขึ้นมาหนึ่งเรื่องนั้น แกได้ยินเสียงแบบไหน และเสียงแบบไหนที่ตาลุงGeorge Lucas เลือกที่จะใส่ลงไปในหนัง ทำไมหนังทุกเรื่องทีได้ Studio George Lucas ทำmixเสียงถึงได้ดีขนาดนี้ เพราะอะไร ก็เลยเกิดความอยากขึ้นมา ผมเองชอบลองอะไรแปลกๆที่ใช้ลำโพงตั้งพื้นมาเป็น center นั้น ก็ได้ความกระจ่างมาแล้ว ตอนนี้เลยต้องการค้นหาว่า ลำโพงระดับ Studio ที่ใช้ mix เสียงนั้นดีอย่างไร ก็เลยมีพี่ใจดีหามาให้ ลำโพงที่ผมใช้เป็นแบบมีแอมป์ในตัวหรือเรียกว่า Active Speaker ซึ่งมีความเที่ยงตรงของเสียงสูงมาก ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับ STUDIO เลย อย่างที่ผมบอกแระครับ ผมเป็นนักเล่นที่ต้องการหาประสบการณ์ ประสบการณ์ ผมไม่ได้เยอะอะไรเลยนะครับ นักเล่นที่เล่นมาหลายสิบปีมีเยอะครับ แต่ผมมั่นใจครับว่า ประสบการณ์ของผม ผมมีครับถึงจะไม่มากแต่ก็ผ่านมาได้แบบเจ็บๆครับ ผมลองผิดมามากกว่าถูกครับ จนวันนี้ผมจึงได้รู้และเข้าใจว่า การดูหนังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ
1.หนัง 2.ภาพ 3.เสียง สามอย่างนี้ต้องอยู่ในความเหมาะสมครับ พอดีกันเท่านั้นถึงจะดีครับ ไม่ใช้ว่า เล่นจอ200นิ้ว แต่ชุดin the box หรือ ลำโพงใหญ่ยังกะเสารถไฟฟ้า แต่ดูกะจอ 32" แบบนี้มันไม่เหมาะสมครับ ทุกอย่างต้อง Balanceกัน เข้ากันครับ ผมขายเครื่องเสียงมา สมการของนักเล่นเครื่องเสียงคือ +10 -10 และ 0 ค่า
+10 คือผู้ซื้อนั้นคือเราครับ เราอยากได้เราซื้อค่าความรู้สึกทางใจบวกสิบ
-10 คือค่าของผู้ที่ไม่เห็นด้วย เช่น เมีย เป็นต้น อคติคิดในแง่ลบ เปลืองตังค์ ไร้สาระ ค่าความรู้สึกทางใจ -10
0 คือค่าของคนที่ไม่สนใจไร แถม งง ว่าคืออะไร เอาอะไรเข้าบ้าน เช่น ลูก เป็นต้น ค่าความรู้สึกทางใจ 0
การที่จะทำให้ทั้งสามค่า ปรับเป็นบวกให้หมดนั้นไม่ง่ายครับต้องใช้เวลา ผมไม่เคยแนะนำใครให้เล่นเครื่องเสียงเกินครอบครัวครับ คำว่า "พอดีคำ" คือสิ่งที่ผมยึดมั่น ถือมั่น เสมอมา การปรับทุกอย่างให้ทุกคนมีความสุขมันยากมากนะครับ ทุกรีวิวที่ผมเขียนคุณอาจจะมีรอยยิ้มหรือไม่มีก็ได้ เจตนาการเขียนรีวิว ไม่ได้ต้องการอวดว่าผมมีของหรืออะไร แต่ผมต้องการบันทึกเรื่องราวสักเรื่องเผื่อในอนาคตจะเป็นประโยชน์เท่านั้นครับ การที่ผมทำแบบนี้ออกมา ผมรู้อยู่แล้วครับว่าต้องมีคนไม่ชอบมากกว่าคนชอบ ผมรู้ครับวงการนี้มันถึงกันหมด แต่ของแบบนี้ต้องทำใจครับ คนชอบเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ เป็นเรื่องธรรมดาครับ
ด้วยรัก และ ห่วงใย สถาบันครอบครัว
ORACLE HT ครับ
ถ้าภาพต่อไปนี้คือ Studio THX ล่ะก็



.
.
.
ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ Studio Yong Ma Fang ครับ


ขอขอบคุณ HTG ค้าบบบบบบ