ส่วนเรื่อง DOF นี่ เลนส์แต่ละตัว ถึงจะระยะเท่ากัน แต่ตั้งมาไม่เท่ากันนะครับ ถ้าคนถ่ายรูปบ่อยๆจะรู้
แค่เลนส์ Normal ของกล้อง Medium Format กับเลนส์ Normal ของกล้อง 35mm มันก็คนละระยะแล้ว ยิ่งกล้อง Large Format ยิ่งไปกันใหญ่
ล่องหากล้องมา แล้วหาเลนส์หลายๆยี่ห้อมาถ่ายเทียบกันจะเข้าใจครับ อันนี้เป้นเรื่องที่หาข้อมูลบน NET ได้ยากครับ
การ Tilt จะควบคุมระนาบชัดนะครับ ถ้าถ่ายขวดสองใบที่วางเฉียงกัน 45 องศา ก็ใช้การ Tilt Lens ทำให้ขวด 2 ใบชัดเท่ากันได้ ซอฟท์แวร์ช่วยไม่ได้ครับงานนี้ ต่อให้หรี่ F แคบไปถึง 64 (ปัจจุบันมีเลนส์ที่ทำได้ 128 แล้ว) ก็ DOF ไม่ถึงนะครับ งานนี้ต้องคนเคยถ่ายถึงจะเข้าใจ พวกซอฟท์แวร์ทำได้แค่ Anti คือทำให้เบลอได้เท่านั้นครับ ไม่สามารถทำให้ชัดได้นะครับ ไม่งั้นผมก็ถ่ายมาหลุดโฟกัสแล้วใช้โปรแกรมช่วยเอา ชีวิตคงสะดวกครับ
* พิมพ์ซะยาวเลย ไม่เห้นมีรูปเลยมาโชว์บ้างล่ะครับ
น่าหนักใจนะครับ
กล้องที่ผมใช้นี่ Full-frame เหมือนกันครับ ของ Nikon ไม่จำเป็นต้องเอามาอวดหรอกครับ
![no N]](https://www.htg2.net/Smileys/default/onevil.gif)
คุยกับด้วยข้อมูลเหตุผล ไม่ได้เป็นคนใจแคบ จนต้องมาอวดรวย แก้เขิน เพราะคนจับได้ว่ามั่ว
และ เลนซ์ที่วางขาย Focal length จริงอาจจะไม่ตรงกับที่โฆษณาครับ ไม่ใช่ DOF (Depth of field หรือ ระยะชัดลึก) เช่น เลนซ์ Focal length 50mm ไปวัดจริง อาจจะไม่ใช่ 50mm พอดีเปะๆ ข้อมูลพวกนี้มีบนเน็ตครับ เพราะมีคนเทสกัน หาอ่านได้ตามเวปที่เขาเทสเลนซ์ ตามหลักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่นั่งเทียน มโนตามใจฉัน หรือ ยังมาสับสนว่าเป็น DOF อยู่
เรื่อง DOF ลองอ่านในนี้ดูละกัน เป็นโปรแกรมคำนวนได้เลยในเวป
http://www.dofmaster.com/dofjs.htmlดูตัวแปรนะครับ ว่ามันขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
เพราะงั้น ขวดวางเฉียง 45 องศา จะถ่ายให้ชัดเท่ากัน ไม่ลดรูรับแสง หรือ เลื่อนระยะโฟกัสออกไป เพื่อเพิ่ม Depth of field ไปให้ครอบคลุม ระยะทั้งหมด ก็ tilt lens เพื่อให้ระยะห่างระหว่างด้านเฉียงสองด้านกับเลนซ์ลดลง เพื่อให้อยู่ใน DOF หลักมันก็มีแค่นี้ ซึ่งปกติ เลนซ์ tilt shift เอามาเล่นทำได้ทั้งเพิ่ม DOF แล้วก็ทำ Miniature effect ซึ่งหลังๆ Software มันทดแทนได้ทั้งคู่
ทำให้ผมสงสัยเหมือนกัน ขวดที่คุณถ่ายมันยาวกี่เมตร ถ่ายห่างจากขวดกี่เมตร เลนซ์ 50mm ถึงปรับรูรับแสงลง แล้วระยะชัดลึกไม่ครอบคลุมทั้งหมด
แล้วการถ่ายที่ f แคบมากๆ ใช่ว่าจะทำให้ภาพดีขึ้น มันทำให้ระยะชัดลึกเพิ่มขึ้น แต่ถึงจุดนึงมันจะทำให้คุณภาพ ภาพแย่ลงเพราะมันมีปัญหาเรื่อง Diffraction แต่สำหรับงานถ่ายจริงถ้าไม่ Zoom เข้าไปดู 100% crop เช็คเนี่ย บางทีมันก็มองไม่ออก
เห็นว่าชอบเลนซ์ Rodenstock ผมเลยเอาผลเทสที่เขาเทสกันเป็นเรื่องเป็นราวโดยใช้เลนซ์ Rodenstock มาให้ดู
https://luminous-landscape.com/understanding-lens-diffraction/ถ้าอ่าน MTF Charts เป็น จะรู้ว่าเลนซ์แต่ละตัว Overall sharpness สูงสุดที่ f เท่าไร
ส่วนเลนซ์ที่ไม่มีการบิดเบือนของภาพ ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยเจอ เคยเจอแต่แบบน้อยมากๆ เช่น < +-0.2%
Leica Summilux-R 50mm f/1.4 นี่น่าจะอยู่แถวๆ -0.6%
ระยะที่จะน้อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นช่วง 85-135mm เช่น Nikon 85mm f1.8g อยู่แถวๆ +0.18%
ส่วนเรื่องการใช้ PC หรือ Mac เป็น Transport
ถ้าอัพเกรด OS แล้วเสียงเปลี่ยน ส่วนใหญ่ก็แปลว่า OS เก่ามีบัก ในระบบเสียงแหละครับ ไม่ก็อาจจะมี DSP (เช่นพวก Sound Enhancer หรือ Noise Sharpening อะไรเถือกนี้) อะไรอยู่แล้วไปเปลี่ยน Algorithm หรือ ใส่ DSP เพิ่ม หรือ เอาของเดิมออก
ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นแสดงว่า OS มีเอาไฟล์เสียงไป Process อะไรก่อน รวมไปถึงการ Config software ที่ใช้เล่น เช่น หากตั้ง Sample Rate ตายตัวไม่ให้เปลี่ยนตาม Source ทำให้ OS ไม่ก็ Software ที่ใช้เล่นเพลง ต้องทำ Re-sampling สัญญาณเสียง ก่อนส่งข้อมูลออกไป ซึ่ง Algorithm ในการ Re-sampling มีหลายแบบ บางแบบเน้น Performance บางแบบเน้น Quality แล้วต่อให้เป็นแบบเน้น Quality ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเหมาะสมกับเพลงทุกรูปแบบ
ซึ่งเแปลว่าไม่ได้เล่นแบบ Bit perfect
หรือบางเคสก็มีประเภทที่ เอาไฟล์เสียง 44.1kHz 16 bit ไปผ่าน DAC เอาสัญญาณ Analog เข้า ADC แปลงกลับแล้วเซฟเป็น ไฟล์ 88.1KHz 24/32bit แล้วคิดว่าทำให้เสียงดีขึ้น แต่ที่ทำไป คือ การ Re-Record ซึ่งแน่นอนต้องทำให้เกิด Loss แค่ตอนเอาสัญญาณไป Re-Record ใหม่ อาจจะผ่าน EQ หรือ ติด Charactor ของ DAC ADC ของ Audio Interface ที่ใช้ แล้วมโนว่าดีขึ้น ไม่ก็มันได้เสียงที่ถูกจริตขึ้นเท่านั้นเอง
หนักๆ ก็ประเภทบอกว่า Rip CD แผ่นเดียวกัน ด้วยออปติคอลไดรฟ์คนละไดร์ฟ เสียงไม่เหมือนกัน พอผมไปลองจริงๆ เอาโปรแกรม Bit compare มาเทียบไฟล์สองไฟลดูว่ามัน match 100% เปล่า พอเช็คว่า match 100% แน่ๆ สลับไฟล์เปิดฟังใน system เดียวกัน เล่นจากเครื่องเดียวกัน HDD ลูกเดียวกัน สุดท้ายก็ฟังไม่บอก บ้างก็มโนว่าไฟล์เดียวกันที่ Rip โดยไดรฟ์ตัวเดียวกัน เสียงต่างกันบ้าง
ที่หนักกว่าคือ สลับชื่อไฟล์กัน โดยเปลี่ยนชื่อไฟล์บอกว่าไฟล์ที่ Rip จากไดร์ฟอย่างดี สายสัญญาณเทพเขา เป็นไฟล์ที่ริปจากไดร์ฟทั่วไปสายสัญญาณโรงงาน แล้วเปิดให้ฟัง ดันบอกว่าเสียงที่ได้จากไดร์ฟกับสายสัญญาณทั่วไปเสียงดีกว่าซะอีกนี่...