ลองอ่านเล่นๆ สำหรับท่านที่สนใจเรื่องสตูดิโอ
ที่มา
https://www.overclockzone.com/forums/archive/index.php/t-1428593.htmlครับเพราะในเวลานี้ถ้า ต้องการต่อคอมพิวเตอร์กับซอฟต์แวร์ยอดนิยมในตลาด ตอนนี้
เช่น Sonar,Cubse,FLStudio,Reason มันไม่มีอะไรดีกว่า ASIO แล้วไงครับ
เพราะการที่ซาวการ์ดจะติดต่อกับ คอมพิวเตอร์เพื่อบันทึกเล่น PCM
นอกจากต้องมีไดเวอร์แล้วซึ่งที่ขาดไม่ได้คือ API ครับไม่มีก็จบครับ
ยกตัวอย่าง
Win 95,98,ME ใช้
(VXD) Driver API MME
Direct Sound API
เป็นมาตรฐานในการจัดการเรื่องเสียง
Win 98SE,ME,2000,XP,Vista,7
(WDM) Windows Driver Model API
Direct Sound API
บน Mac
(AU) Audio Unit API ดีกว่า WDM เยอะทำให้ในสมัยก่อนทำไมเค้า
ถึงนิยมไปทำเพลงกันบน Mac เพราะมาตรฐาน API ของ ASIO มันยังไม่แพรหลาย
เท่ากับปัจจุบันนี้ไง
ยกตัวอย่าง API ที่ทำมาเฉพาะสำหรับ
ใช้กับซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์โดยเฉพาะ
(ASIO_ Audio Stream Input/Output คิดค้นโดย Steinberg ผู้ผลิต Cubse ปัจจุบัน ถูก YAMAHA ซื้อไปแล้ว)
แทบจะขาดไม่ได้แล้วกับซอฟต์แวร์สำหรับทำเพลงและดนตรีในปัจจุบัน
รวมถึงโปรแกรมเล่นเพลงบางตัว
(GSIF) GigaSampler InterFace เป็น API ที่เกิดก่อน ASIO เสียอีกครับ
ถูกสร้างมาให้ใช้กับซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์โดยเฉพาะเช่นกัน
คิดค้นโดย AKAI ใช้กับซอฟต์แวร์ GigaStudio ปัจจุบันขายให้กับ
TASCAM ไปแล้วครับไม่ค่อยนิยมในปัจจุบันเนื่องจาก ซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์
ไม่ค่อยสนับสนุน
(EAX) Environmental audio extensions อันนี้หลายคนคงรู้จักกันดีแล้วครับ
มันคือ API เฉพาะของ เจ้าพ่อมัลติมีเดีย. Creative สร้างมาเฉพาะสำหรับ
จัดการเรื่อง sound effects 3D Sound และอื่นๆโดยใช้ความสามารถจาก
ฮาร์ดแวร์โดยตรงแทนที่จะใช้ Direct Sound ปัจจุบันนิยมใช้กับ
เกมส์เป็นส่วนใหญ่ ซอฟต์แวร์สำหรับทำเพลงและดนตรีในปัจจุบันไม่รองรับ
ถูกครับที่ ฮาร์ดแวร์ ในปัจจุบันมันประมวลผลของตัวมันเองได้
ไม่ต้องของแพงหรอกครับง่ายๆอย่าง X-Fi มันก็มี DSP ในการ
ประมวลผลด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว แต่อย่าลืมว่าถึง ต่อให้ฮาร์ดแวร์สุดเทพสุดแพง
ถ้าต้องการต่อกับคอมพิวเตอร์ยังไงก็ต้องมี API มาติดต่อกับมันอยู่ดีครับ
มันไม่เหมือนกับเอาเครื่องเล่น DVD ไปต่อกับ DAC แล้วมีเสียงเลยนะครับ ผมกำลังจะพูดว่า
ทำไม่ถึงต้องมี API เพราะว่าฮาร์ดแวร์มันจะต้องคุยกับซอฟต์แวร์ ยังไงครับ
ยกตัวอย่างของ RME ที่เป็น Zero CPU Load ไม่ต้องใช้ CPU เลยยังต้องมีรองรับ API เลย
ก็เหมือนกันว่า มีฮาร์ดแวร์สุดเทพสุดแพง ประมวลผลของตัวมันเองได้
แต่มันไม่รู้จะไปคุยกับซอฟต์แวร์ อื่นๆยังไงไงครับ
เช่น ซอฟต์แวร์ ส่วนใหญ่คุยภาษา WDM ASIO AU
แต่ฮาร์ดแวร์สุดเทพสุดแพง ดันไม่คุยภาษานี้ก็เลยติดต่อกันไม่ได้ แต่มันสามารถประมวล
ผลด้วยตัวมันเองได้เว้นแต่ผู้ผลิตจะสร้างภาษาเฉพาะเพื่อให้ ฮาร์ดแวร์กับซอฟต์แวร์ มันคุยกันเองได้
เช่น สร้างฮาร์ดแวร์
สร้าง ภาษาสำหรับติดต่อกับฮาร์ดแวร์ของตัวเองโดยเฉพาะ API
สร้าง ซอฟต์แวร์สำหรับใช้งาน
ซึ่งต่อให้มันเทพกว่า ASIO
แต่มันก็มีข้อเสียตรง อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากเพราะต้องซื้อทุกอย่างตั้งแต่ ซอฟต์แวร์ ยันฮาร์ดแวร์
ไม่รองรับซอฟต์แวร์อื่นเพราะ ฮาร์ดแวร์สุดเทพไม่คุย ภาษาอื่น นอกจากภาษาของมันเอง
ยุงยากต่อการเรียนรู้ใหม่เพราะคู่มือและหนังสือประกอบการใช้งานมีแต่ manual ของ ฮาร์ดแวร์สุดเทพ
สรุปว่า ASIO,WDM,Direct Sound มันเป็นเพียงแค่ภาษาที่ใช้ติดต่อกันระหว่าง ซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์
แค่นั้นเองครับ มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการประมวลผลในฮาร์ดแวร์ซักนิดเลยครับ
อย่างภาษา ASIO ออกแบบมาให้คุยกันได้ง่ายๆ หน่อยมันก็ลด latency ในการคุยกันได้ทำให้
ซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์มันคุยกันนิดหน่อยก็รู้เรื่องแล้ว
หรือถ้าไปคุยกับ WDM อาจจะคุยยากหน่อยใช้ภาษายาวกว่า
กว่าจะคุยกันรู้เรื่องใช้เวลานานกว่า latency ก็สูงกว่า