http://www.duncanamps.com/technical/speaker_cab.htmlไกด์ไลน์ในการทำคาบิเนต ผมลอกมาแบบย่อๆ พอได้ไอเดีย
2X8 inch cabinet
ไม้หนาพอที่จะยึดดอกลำโพง
ยาวอย่างน้อย = (2*8")+4" =20"
กว้างครึ่งหนึ่ง = 10"
ตู้ปิด ทนกำลังได้มากกว่า ตอบสนองความถี่ได้ต่ำ
Q = Qtc = กาตอบสนองทั้งหมดของระบบ รวมเรโซแนนของระบบ , Q ต่ำตอบสนองได้เร็ว , respone deviation band แคบ
Qtc ต่ำ ตอบสนอง transient signal ได้ดีกว่า ,ให้ cleaner tone ขณะที่ Q สูงกว่าให้ darker และ warmer tone
สำหรับ guitar cabinet Qtc ประมาณ 0.707 - 1.0 ถ้าต่ำกว่า 0.707 เสียงกลางจะหาย มากกว่า 1.0 จะขาดรายละเอียด และ
ต้องเพิ่มการตอบสนอง -2dB ในความถี่ mid-high ซึ่งต้องปรับแก้ด้วย EQ จากภายนอก
สำหรับกีต้าร์คาบิเนต พยายามเลือกลำโพงที่มีค่า Qts เหมาะสม ซึ่งจะทำให้ F3 อยู่ต่ำกว่า ความถี่ฟันดาเมนทอลโทนที่ต่ำที่สุดที่สร้างโดยกีต้าร์ที่กำลังเล่น
สำหรับกีต้าร์หกสายความถี่ต่ำสุดคือสาย E ซึ่งสั่นที่ความถี่ 81Hz ถ้า F3 ของคุณต่ำกว่าความถี่นี้คุณก็จะไม่ต้องมีประสบการณ์ low end rolloff ในช่วงความถี่ของกีต้าร์ของคุณ
พยายามทดลองสมการ Dickason ให้ได้ F3 ที่ต่ำที่สุด คุณอาจจะต้องค้นหาดอกลำโพงที่มีค่า Qts ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้
ฉันเคยถามนักกีต้าร์ heavy metal เพื่อออกแบบ full stack ว่าคุณต้องการอะไร แบบไหน เขาบอกว่า ทำให้ดังที่สุด ฉันถามว่าคุณเล่นคีย์อะไร เขาตอบว่า drop D
ในการถ่ายทอดตัวแปรไปสู่การออกแบบ เขาอาจจะพุ่งเป้าไปที่กำลังของเบสที่มากกว่าและกำลังขับที่มากกว่า หมายถึงต้องมีค่า Qtc สูงกว่าปกติ
F3 จะต้องต่ำกว่าเสียงฟันดาเมนทอลที่ต่ำที่สุด ในกรณีนี้ประมาณ 71Hz (low D) ฉันก็มีแนวคิดในการพยายามที่จะให้ได้การตอบสนองสูงสุดของเพาเวอร์คอร์ด D ด้วย
ในกรณีนี้ฉันพยายามทำให้ Fc (หรือ box respone frequency) ที่ต่ำกว่าสาย A (ประมาณ 110Hz)
ฉันจบลงที่เลือก Qtc 1.0
Cabinet Construction and Finishing
คาบิเนตส่วนมากทำจาก plywood or MDF (medium density fiberboard) ,MDF ไม่ใช่ particle board ตัวนี้ไม้หยาบกว่า
ไม้ที่นำมาทำมีสองทางเลือก
a) birch covered plywood in 3/4" thickness, and
b) MDF in 1" thickness.
ทั้งสองให้สมดุลความแข็งแรงและน้ำหนักและทำงานด้วยเครื่องมือช่างได้ง่าย
แอมป์หลอด พยายามใส่ดอกลำโพงที่มีอิมพีแดนซ์ที่ถูกต้องกับอิมพีแดนซ์ของแอมป์ เพราะประสิทธิภาพของมันคือเอ้าพุทอิมพีแดนซ์ที่ถูกต้อง จะ reflected กลับไปที่ขอ primary ของหม้อแปลง OPT
ซึ่งจะเป็นตัวพิจารณาการไหลของกระแสผ่านหลอด ถ้าใช้อิมพีแดนซ์ผิด ทั้งที่สูงกว่าและต่ำกว่า หลอดเอ้าพุทจะเห็นอิมพีแดนซ์ผิดพลาดและจะจ่ายกำลังขับที่น้อยการให้คาบิเนต
มันสามารถทำให้หม้อ OPT เกิดการ flyback และซ็อกเกตของหลอดเกิดการอาร์คใรเวลาสั้นๆ